คุยเรื่องแต่งงานกับพ่อแม่ยังไงดี? ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายๆคนอาจจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากได้ที่ปรึกษาสักคน มีเพื่อนๆและคนรู้จักหลายๆคนส่งเข้ามาถาม OPONG เสมอ อ่านประสบการณ์ของเราได้ที่นี่ค่ะ
วิธีบอกแม่ว่าจะแต่งงาน
ผู้อ่านบางท่านอาจจะเกริ่นนำกับทางบ้าน หรือพาแฟนไปทำความรู้จักกับที่บ้านมาบ้างแล้ว หรืออาจจะเคยนำไปซุบซิบปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ที่รัก บอกว่าแฟนคนนี้แหละคือคนที่ใช่และคิดจะแต่งงานด้วย ในบทความนี้ เรามีขั้นตอน วิธีบอกแม่ว่าจะแต่งงาน จากประสบการณ์ของเรา มาแบ่งปันเพื่อน ๆ ค่ะ
1. คุยเรื่องแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ
ล่วงหน้าก่อนแต่งประมาณ 6 – 7 เดือน แฟนเราเคยมานั่งคุยกับพ่อแม่เรื่องแต่งงานค่ะ
เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก ๆ แต่ไม่ได้เป็นทางการอะไร ก่อนที่จะมาคุย แน่นอนว่าเราฝ่ายผู้หญิงต้องไปกระซิบบอกพ่อแม่ก่อนค่ะ ว่าแฟนจะขอเข้ามาคุย … ซึ่งที่บ้านเรากับแฟนจะค่อนข้างเป็นกันเองกัน และครอบครัวเราค่อนข้างเป็นกันเองด้วย ก็เลยไม่พิธีรีตรองอะไรมากนัก… วันนั้นพ่อแม่เราก็ไม่ได้ถามค่ะว่าจะมาขอวันไหน เพียงแต่สอนว่า ถ้าจะแต่งงาน ชีวิตคนเรามันมีอะไรบ้าง สอนเรื่องการใช้ชีวิต สอนสิ่งสำคัญที่ต้องมี เช่น จะสร้างครอบครัว ก็ต้องมีบ้าน มีงาน คิดถึงลูก วางแผนอนาคตเรื่องลูก เรื่องการทำงาน เรื่องชีวิตคู่ด้วยกัน แต่งงานเสร็จแล้วจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ทำอาชีพอะไร ประมาณนี้ค่ะ … นอกจากงานแต่งแล้ว หลังจบงานแต่ง เราก็จะมีชีวิตคู่อยู่ด้วยกันไป เรื่องนี้สำคัญมากๆเลยที่จะต้องคิดและวางแผน เพราะค่าใช้จ่ายสมัยนี้ก็สูงอยู่ และเมื่อมีครอบครัวแล้ว นั่นแปลว่าถึงเวลาลงหลักปักฐาน และอาจจะนึกถึงเจ้าตัวเล็กอีกชีวิตที่จะตามมา ก็ต้องมีการปรึกษากันล่วงหน้าว่าแต่งงานไปแล้วจะเอายังไงดี
2. คุยเรื่องแต่งงาน (ครั้งที่ 2)
พอจะแต่งจริง ๆ ก็จะเป็นผู้ใหญ่นัดคุยกันแบบไม่ค่อยทางการค่ะ มาทำความรู้จักคุยกัน นัดแนะกันอีกรอบ … ส่วนเรื่องฤกษ์ ก็มีคุยกัน แต่ทางเราก็จะคุยกับพ่อแม่เรา ทางเจ้าบ่าวก็จะคุยกับพ่อแม่เจ้าบ่าวด้วยตัวเองด้วย แล้วเราว่าที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวก็จะมาซุบซิบสุมหัวกันอีกรอบว่าจะทำอะไรบ้าง ขั้นตอนต่อไปทำอะไรกันบ้าง
3. คุยเรื่องแต่งงานกับพ่อแม่ และผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการ
ครั้งนี้ถึงคราวทางผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว เดินทางมาคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเราที่บ้านค่ะ คุยเสร็จ มีไปดูสถานที่ ดูโรงแรมด้วย เรื่องสินสอดผู้ใหญ่จะคุยกันเองค่ะ บางท่านอาจจะนัดคุยกันที่โรงแรม จองห้องอาหารส่วนตัว คุยไปทานข้าวไป หรือ ทานข้าวเสร็จค่อยคุยเรื่องแต่งงาน แล้วถ่ายรูปรวมกันก็ได้ค่ะ
คุยเรื่องสินสอด กับพ่อแม่
เป็นเรื่องที่ HOT ในโลกโซเชี่ยล มากๆเลย เห็นมีกระทู้ฮอตฮิตให้แสดงความคิดเห็นดุเด็ดเผ็ดมันส์
สำหรับโอ (ผู้เขียนบทความ) โอคิดว่า.. ถึงเวลาจริงๆเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรจะคุยกันเอง มากกว่าไปตั้งกระทู้ถามว่ามูลค่าสินสอดควรจะเป็นเท่าไรค่ะ เพราะว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน ก็คงต้องว่ากันไปตามสะดวกและความเหมาะสมหรือตามที่ผู้ใหญ่คุยกัน
โอมองว่าเรื่องสินสอดเป็นเรื่องประเพณีไทย เรื่องของผู้ใหญ่ โดยที่อาจจะดูว่าเท่าไหร่ถึงจะสมน้ำสมเนื้อกับอีกฝ่าย เพราะทางไทยเราจะมีเรื่องของการไว้หน้าในสังคมค่ะ ส่วนประเด็นที่หลายๆ คนกังวลกันว่า สินสอดจะต้องเอาคืนหรือให้ไปเลย … สำหรับโอ ตอนแต่งงาน เราให้เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวค่ะ ส่วนบางบ้านก็แล้วแต่ฝั่งเจ้าสาว เรื่องนี้บ่าวสาวต้องคุยกันว่าแต่ละบ้านจะเอายังไง
แต่ส่วนใหญ่ที่โอเจอมาจะเป็นแบบ ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวมอบให้เจ้าสาว ฝั่งเจ้าสาวก็ไม่เอา ให้บ่าวสาวไปตั้งตัวกันเป็นขวัญถุง เรื่องเหล่านี้เอามาตรฐานคนอื่นมาตัดสินไม่ได้ คงต้องแล้วแต่บ้าน แล้วแต่บ่าวสาวคุยกันจ้า
- มีคำถาม? คุณสามารถตั้งกระทู้สอบถาม – พูดคุย ที่ เว็บบอร์ด WeddingReview.net
