รีวิว “จัดงานแต่งงาน” (แบบหมดเปลือก) – ใช้เวลาเตรียมงาน 2 เดือนเอง

#31 ปรับทัศนคติ

ข้อคิดจากการจัดงานแต่งงานค่ะ

- จริงอยู่ที่ชีวิตไม่ได้จบที่งานแต่งงานแค่วันเดียวค่ะ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเถียงกันว่า ตอนจัดงานแต่งงานจะเอานู่นออกนี่ออก ถ้าบางอย่างเอาออกแล้วมันทำให้ไม่สบายใจในภายหลัง นั่นแปลว่าไม่ควรทำ ^^'

- อย่าลืมว่างานนี้จัดเพื่อใคร ^________^ ถ้าพ่อแม่ปู่ย่าตายาย หรือ แฟนของคุณ มีสังคม & มีหน้าที่การงาน เราก็ต้องดูความเป็นจริงด้วยค่ะ ต้องเห็นใจกันค่ะ ..สมมติตัวเราเองไม่เป็นไร แต่คนอื่นในครอบครัวเจ้าสาว & เจ้าบ่าว จะเป็นอะไรรึป่าว เพราะทุกที่มีสังคมค่ะ | งานที่มีเฉพาะเพื่อน & ญาติสนิท คงจัดแบบกันเองได้ค่ะ | แต่ถ้าเป็นงานของผู้ใหญ่ คงต้องพิจารณารูปแบบการจัดงานค่ะ ^^' เพราะอย่างไรก็ต้องจัด ... ดูความสบายใจของครอบครัวเป็นที่ตั้งค่ะ ^^

- สูตรคำนวณอาหาร & การ์ด มันมีอยู่แล้วค่ะ ^____^ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นไปตามที่คำนวณ 100% บางอย่างต้องใช้ COMMON SENSE ...และเพราะเราเป็นมนุษย์ เราต้องดูนิสัยมนุษย์ พฤติกรรมมนุษย์เวลาจัดงาน ไม่ใช่พึ่งพาทฤษฏีเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญ เราไม่ควรใช้มาตรฐานตัวเราเพียงคนเดียวมาเป็นเกณฑ์การจัดงาน เช่น ปกติฉันไปงานคนอื่น ฉันกินน้อย ... ฉันคิดว่าถ้าจัดงานเอง ฉันจะสั่งอาหารมาน้อยๆ คนอื่นๆคงเป็นเหมือนฉัน .... ความเป็นจริงคือ มนุษย์ไม่ได้เหมือนกันทุกคน และถ้าอาหารไม่พอ หรืออะไรไม่พอ คนที่เดือดร้อนคือคนที่มาร่วมงาน เช่น ญาติๆเราที่เดินทางมาไกล งานเลี้ยงฉลองเราจัดเพื่อขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน คนกันเองทั้งนั้นเลย ^^"

- การประหยัดเป็นเรื่องดีมากๆค่ะ แต่อย่างที่บอกไป.... งานนี้จัดเพื่อใคร? ^^" เพราะถ้าเป็นงานที่มีแต่คนในครอบครัว 10 คน เราเชื่อว่าไปจดทะเบียนสมรสและเลี้ยงข้าวดีดีซักมื้อก็จบ ... แต่ถ้ามีแขกผู้ใหญ่ ญาติผู้ใหญ่มา และด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานหรือทางสังคมที่ต้องจัด ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจัดอีกแบบ

- วิธีเหลียกเลี่ยงบทสนทนา ประเภท "แล้วถ้า..... " , "ถ้าซุ้มอาหารตั้งไม่พอล่ะ", "ก็อย่างนั้นสิ อย่างนี้สิ" ... คือ ตอบไปว่า "เดี๋ยวพรุ่งนี้เราถามเซลล์โรงแรมกันดีมั้ยจะได้รู้ชัวร์ๆ" (จะได้ไม่ต้องเถียงกันให้ปวดหัว) ..... เรื่องไหนที่ไม่ควรคิดเอง ก็อย่าคิดเองเลยค่ะ ถามผู้รู้ดีกว่า ^^"

- ก่อนทำอะไรควรศึกษาหาข้อมูลด้วยตัวเองก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่ต้องจ่ายเงิน ^^"

- คนเราชอบของถูกและดี ของประหยัดและดี แต่มันมีหรือเปล่าในโลกมันอีกเรื่อง ... การถ่าย Pre-Wedding หรือ ซื้อ Package จาก Wedding Studio ควรศึกษาราคามาตรฐานสากล ว่าร้านระดับนี้ ราคานี้ ควรได้อะไรเท่าไร ... เพื่อประโยชน์ของตัวบ่าว-สาวเอง ^________^

- ทดลอง File VDO Presentation กับเครื่องเล่นตัวจริงก่อนวันงานเสมอ

- อะไรที่ผ่านไปแล้ว มันเป็นบทเรียนค่ะ ทำสิ่งที่ดีกับตัวเอง & เจ้าบ่าว และ ครอบครัว ค่ะ .. มีอะไรก็พูดคุยกันด้วยเหตุผล มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอาชนะกันค่ะ แต่อะไรที่มันดีกับครอบครัวก็ควรทำค่ะ แต่อย่าพูดตำหนิ่กันซ้ำๆ คุยเรื่องดีดีกันดีกว่า  ^^

#32 ซองวันงาน .. ใครเป็นคนเก็บ

ตอนนี้มีเป็น Fanpage แล้วนะคะ ฝาก Follow & Inbox เข้ามาสอบถามได้เลยค่ะ 

คู่มือจัดงานแต่งงาน by OPONG

------------------------------

เพิ่งนึกออกอีกเรื่องค่ะ ... มาเขียนเพิ่ม

ที่โต๊ะลงทะเบียน นอกจากจำต้องมีสาวๆสวยๆ มาดูแล ต้อนรับแขก แนะนำแขกลงทะเบียน มอบของชำร่วย และรับซองแล้ว

มีอีกเรื่องที่หลายๆบ้านคงสงสัยกันมากๆ คือ ....... ใครเป็นคนเก็บซอง? เก็บกันยังไง ......

ประสบการณ์จากบ้านเรา

- ทางบ้านแฟนเรา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฝั่งเจ้าสาวในการดูแลเรื่องนี้ไปเลย 

- ในขณะที่ฝั่งเจ้าสาว ... ต่างเกี่ยงกันว่าใครจะเป็นคนเก็บซอง! - -" 

- บ้านเราไม่มีใครอยากยุ่งกับซอง เพราะไม่มีใครอยากรับผิดชอบเงินจำนวนมาก (เพลียแป๊บ)

- คือ พอเริ่มงานซักพัก คาดว่าแขกน่าจะมาครบ คนที่โต๊ะลงทะเบียนก็จะเริ่มเก็บข้าวของ เก็บซอง และเข้าไปร่วมงาน

- ทางบ้านเราโชคดี ที่มีน้าชายจะกลับบ้านเร็ว อยู่จนงานจบไม่ได้เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปต่างประเทศ

- จึงให้น้าคนนี้ ช่วยรวบรวมซอง และเอาใส่กระเป๋าเดินทาง & LOCK ไว้ แล้วนำไปเก็บที่บ้านค่ะ

- ตอนแรกเถียงกันมาก ว่าใครจะเก็บซอง ใครจะเอากระเป๋าไปไว้ในห้องพักที่โรงแรม คือ ทุกคนต่างกลัวหาย และไม่มีใครอยากรับผิดชอบเรื่องเงิน

- โชคดีที่เป็นอย่างที่บอก คือ น้าเราช่วยดูแลและเอาไปเก็บให้ที่บ้าน ส่วนน้าก็กลับบ้านน้าไปนอนวันรุ่งขึ้นไปทำงานต่อค่ะ

#33 นับแขกที่จะมาแต่งงานอย่างไร? … ให้ได้จำนวนใกล้เคียงความจริงที่สุด

ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนเรื่อง "วิธีคำนวณจำนวนแขกที่จะมาในงาน, การแจกซอง, การพิมพ์การ์ดแต่งงาน" ไว้ในกระทู้ คห. ที่ 20 เลื่อนไปอ่านบนๆค่ะ (http://pantip.com/topic/34054147/comment20) ...ใครที่ยังไม่อ่าน เข้าไปตามอ่านได้นะคะ

วิธีใน link ด้านบน เป็นวิธีที่คนทั่วไปทำกันเยอะมากค่ะ เราก็ทำค่ะ แต่ก็ยังมิวายกังวล ว่าสุดท้ายแล้ว แขกจะมาครบหรือพอได้จำนวนตามที่คาดการณ์ไว้หรือเปล่า นั่นเป็นเรื่องที่คิดหนักสำหรับบ่าวสาวอยู่พอสมควรค่ะ เพราะว่าจะต้องเตรียมอาหาร - ห้องจัดเลี้ยงให้เหมาะสมและพอเพียงค่ะ (แจ้งเซลล์โรงแรมล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์) .... 

สุดท้ายแล้ว วิธี CHECK รายชื่อ ที่ครอบครัวเรา & ครอบครัวสามี ร่วมใจกันทำคือ...

- ก่อนแจ้ง CONFIRM กับร้านทำการ์ด ...ทั้ง 2 ครอบครัว ประกอบด้วย เรา, แฟนเรา, พ่อ-แม่สามี, พ่อ-แม่เรา ทั้งหมด 6 คน ต่างมีหน้าที่ส่วนตัว คือ ... ไปนั่งคิดและ LIST รายชื่อค่ะ ว่าจะเชิญใครมางานบ้าง ... 

- LIST รายชื่อแขก สำหรับพิมพ์ชื่อบนซองการ์ดนี้สำคัญมากค่ะ เพราะว่าไม่ว่าแขกจะมาหรือไม่มา ยังไงเราก็ต้องพิมพ์การ์ดเชิญไปให้ค่ะ

- ให้ LIST รายชื่อแขกที่จะต้องพิมพ์ชื่อบนซองให้ครบก่อน (ไม่ว่าจะมาหรือไม่มาก็เขียนไป) ... จะได้รายชื่อ & จำนวนการ์ดที่ต้องพิมพ์ค่ะ ... สบายใจไปเปราะนึง (แต่ต้องพิมพ์การ์ดเผื่อด้วย เผื่อคิดชื่อออกทีหลัง และเผื่อขาด จะได้พิมพ์ทีเดียว)

- ทีนี้พอได้รายชื่อทั้งหมดแล้ว และได้การ์ดแล้ว ประมาณ 1 เดือนก่อนวันงานจริง จะเป็นช่วงเทศกาลเดินสายแจกการ์ดค่ะ อย่าถามว่า "จะมางานได้มั้ย"... แต่ให้บอกว่า "มานะ" .... แล้วแขกท่านนั้นจะตอบกลับเราเองว่าจะมาหรือไม่มา ... 

- ถ้าใครบอกว่าไม่มา-มาไม่ได้ เราก็ไปใส่วงเล็บไว้ใน LIST ว่าคนนี้ไม่มา เพื่อเอาไปเช็กรายชื่อ และนับจำนวนแขกที่จะมาจริงๆ

- ทำประมาณ 1 เดือนก่อนวันงานจริง หรือ ให้เสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์ก่อนวันงานจริง... ถ้าแขกเพิ่มหรือลดลง เราจะได้แจ้งจำนวนแบบค่อนข้างเป็น FINAL LIST เพื่อนำ ตัวเลขไป CONFIRM กับเซลล์โรงแรมค่ะ ถ้าจะสั่งอาหารเพิ่ม ก็จะได้สั่งล่วงหน้าค่ะ ^____^

- เพื่อนๆกันเอง บางคนก็บอกปากเปล่าได้ ไม่ต้องใช้การ์ด ขึ้นอยู่กับความสนิทค่ะ (แต่ยิ่งเพื่อนสนิทมาก ยิ่งขอการ์ด .. อยากได้เป็นที่ระลึก)

ข้อคิด & ความเป็นจริงที่ได้เจอในการเชิญแขกมางาน (จากประสบการณ์เรานะคะ)

- แขกผู้ใหญ่ของพ่อแม่ ด้วยอายุ และความอาวุโส และระดับหน้าที่การงาน ยิ่งตำแหน่งสูง ท่านก็จะรู้ SCHEDULE หรือ ตารางเวลางานของตัวเองล่วงหน้าอยู่แล้วค่ะ ถ้ามีงานไปต่างประเทศ-ต่างจังหวัด หรือ มีสัมมนา หรือ มีงานชนกัน บ่าว-สาว ไม่ต้องกลัวค่ะ ปกติ แขกผู้ใหญ่จะคุยกับพ่อแม่เราเองตั้งแต่วันที่ไปเชิญอยู่แล้วค่ะ ... ขอแค่พยายาม CONFIRM จำนวนแขกกับพ่อแม่ ให้ได้ 1-2 สัปดาห์ล่วงหน้า แต่ถ้าแขกผู้ใหญ่บางท่านบอกไม่ได้จริงๆ ก็ต้องลุ้นวันงานค่ะ ส่วนใหญ่จะมีไม่กี่ท่านเท่านั้นค่ะที่มาไม่ได้ เพราะแขกผู้ใหญ่ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับพ่อแม่ ส่วนใหญ่ถ้ามาได้ก็จะมาร่วมยินดีในวันมงคลของลูกๆอยู่แล้วค่ะ ยกเว้นแต่ไม่ว่างจริงๆ

- อาจารย์ หรือ หัวหน้าที่สนิท เอ็นดูกับเรา-แฟนเรา เวลาเชิญไปงานแต่ง ก็ไม่ต่างกับแขกผู้ใหญ่ของพ่อแม่เราค่ะ ทุกคนจะรู้ตาราง SCHEDULE ของตัวเองกันอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ถ้าสนิทกันจริง และชอบไปงานจริงๆ ก็มักจะมาค่ะ และเมื่อส่งการ์ดเชิญแล้ว ถ้ามาไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็มักให้คำตอบเราเลยค่ะ

- เพื่อนสนิท มิตรสหาย ก็มักจะให้คำตอบได้เลยค่ะ ถ้าจะมีคนปฏิเสธ หรือ บอกว่าจะมา แต่สุดท้ายไม่มา จะมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นค่ะ ไม่ต้องกังวล (ของเราประมาณ 3 ค่ะ)

- คนที่สนิทกับเรา หรือ มีความสัมพันธ์อันดี ถ้าเชิญไปแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะมาค่ะ แล้วส่วนใหญ่เวลาออกปากเชิญ คนที่มาไม่ได้ มักจะบอกเราค่ะว่ามาไม่ได้ หรือ ถ้าไม่แน่ใจ บอกมาก่อนว่ามาได้ แต่สุดท้ายแล้วมาไม่ได้ ก็มักจะแจ้งล่วงหน้าค่ะ (จะมีไม่กี่คนเท่านั้น ที่บอกว่ามา แต่สุดท้ายไม่มา แล้วมาบอกหลังวันงาน... ซึ่งไม่ได้กระทบกับจำนวนอาหารที่จัดเตรียมในงานค่ะ)

- คนที่ชอบออกงาน ยังไงก็จะมา ... ส่วนคนที่ไม่ชอบออกงาน ยังไงก็จะปฏิเสธเราก่อนวันงาน

- ส่วนใหญ่คนที่ได้การ์ดเชิญ หรือ คำเชิญจากเรา ถ้าไปไม่ได้ มักจะติดต่อบอกบ่าว-สาว ล่วงหน้าก่อนวันงานค่ะ (หรือเราอาจจะถามด้วยตัวเองเพื่อยืนยันอีกรอบ)

- ถ้าเป็นเพื่อนสนิท คนสนิท ที่คุยกันได้ เราอาจจะถามล่วงหน้าเพื่อ CONFIRM อีกครั้งก่อนวันงานจริง 1-2 สัปดาห์ เพื่อ CHECK รายชื่ออีกครั้งค่ะ

ตอนนี้มีเป็นแฟนเพจใน FACEBOOK แล้วค่ะ ถ้าจะถามคำถาม รบกวน INBOX ไปถามใน Fanpage สะดวกกว่าจ้า

วิธีติดต่อเรา (UPDATE ใหม่)

Inbox มาที่ คู่มือจัดงานแต่งงาน by OPONG จะมาทยอยตอบค่ะ ^__^

ป.ล. ขอเผื่อเวลาดูแลคนที่บ้านนิสนุงง บางทีตอบช้านะคะ

#34 ว่าด้วยเรื่อง "ทองหมั้น"

จากประสบการณ์ของเรา..... (ขอเล่าเป็นช็อตๆ)

- ตอนเราจะแต่งงาน คุณแม่ของแฟน & แฟนเรา พาไปเลือกและไปลองค่ะ (ขอไม่เปิดเผยเรื่องมูลค่านะคะ .. เพราะว่า คนที่จะแต่งงาน จะต้องรู้จำนวนที่เหมาะสมของตัวเอง-แฟนค่ะ เรื่องนี้แล้วแต่คู่บ่าว-สาว แต่ละคู่ค่ะ ของใครของมันค่ะ)

- วันวาเลนไทน์ หรือ วันหยุดเทศกาลมงคล (ที่คนให้ของขวัญกัน) เป็นวันที่ไม่แนะนำให้ไปซื้อทองสำหรับงานหมั้นค่ะ เพราะคน "อาจจะ" เยอะมากกกก (โดยเฉพาะวาเลนไทน์) แทบทุกร้าน พนักงานจะดูแลไม่สะดวก ซึ่งทำให้คุณมีโอกาสเลือกน้อยลง หรือ เลือกลำบากขึ้น ด้วยจำนวนจำกัดทางด้านเวลา และจำนวนครั้ง เลือกมากไม่ได้ค่ะ ลูกค้าเขาเยอะ พนักงานต้องดูแลลูกค้าทุกคนให้ทั่วถึง

- แต่ถ้าอยากไป ก็ไม่เป็นไรค่ะ มันก็เป็นวันสำหรับความทรงจำที่ดี ไม่ว่าวันไหนก็เป็นวันดี ถ้าเราทำใจ และมีความสุขกับมัน

- คนจะซื้อทอง ที่ไม่ควรลืมคือ นอกจากค่าราคาทอง เป็นบาท เป็นสลึงแล้ว จะต้องจ่าย "ค่ากำเหน็จ" ค่ะ

- ค่ากำเหน็จ เหมือนเป็นค่าแรงช่าง ซึ่งขึ้นอยู่กับลายทอง (รูปพรรณ) ที่เราเลือกด้วยค่ะ ลายยากๆ ลายเยอะๆ ลายสวยๆ ค่ากำเหน็จ ก็สูงขึ้นค่ะ

- คนสมัยนี้ สนใจมากๆๆ กับทรัพย์สินของคนอื่น และอยากรู้เรื่องสินสอดของคนอื่น แต่บ่าว-สาว จงอย่าได้กังวลเรื่องตรงนี้ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างคน 2 คน และ คน 2 ครอบครัว โปรดทำไปตามที่สบายใจ

- เคยคิดกันบ้างไหมคะ? ถ้าคุณไม่ได้ออกงาน บางทีจะซื้อทองเป็นข้อใหญ่ๆ มาทำไม ในเมื่อซื้อไปก็ไม่ได้ใช้?

- ซื้อทองสลึง หรือ บาทเล็กๆ แต่รวมกันเป็น 20 บาท / 20 เส้น ซื้อแบบลายสวยๆ ลายที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ... พอรวมค่ากำเหน็จแล้ว ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีกหลายหมื่นค่ะ

- ไม่ว่าจะเป็นทองรูปแบบไหน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาตีคุณค่าที่ทางจิตใจค่ะ (คนนอกจะพูดยังไงก็เรื่องของเขา... บ่าวสาวอย่าได้แคร์เลย เขาจะพูดกันไม่กี่วัน แล้วเขาก็ลืม)

- เคยมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม INBOX มาถามเรา ว่าเราได้แหวนกี่กะรัต ... บอกได้มั้ย ... เขาจะจัดงานแต่งงาน แต่เขางบน้อย ... เราพูดจริงๆนะคะ ในงานของตัวท่าน ท่านจะใช้แหวนกี่กะรัตก็ได้ แหวนทองก็ได้ แหวนเกลี้ยงก็ได้ ตามแต่สะดวกเลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องตามคนอื่นเลย ชีวิตคู่อยู่ที่คุณ 2 คน

- แต่ถ้าแฟนจะซื้อให้ ทองหลายๆบาท แหวนหลายๆกะรัต ... จะปฏิเสธกันมั้ยคะ (เป็นเรา เราก็ไม่ 555+)

- วันแต่งงานเป็นเพียงงานวันหนึ่ง ของที่ซื้อมาหมั้นหมาย ก็เพื่อภารกิจนี้ ... บางชิ้นถ้าเป็นทองชิ้นใหญ่ๆ จะเอามาใส่ข้างนอกได้มั้ย? เป็นเราเราไม่ใส่ค่ะ มันอันตรายมาก

– บ่าว-สาว ที่จะไปเลือกทองกันเอง 2 คน … ควรช่วยกันคิด ว่าจะเอาทองอันใหญ่ๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน แต่เก็บไว้เผื่ออนาคตจะเพิ่มมูลค่า (10-20 ปี อะไรก็ว่าไป…ซื้อตอนนี้อาจจะถูกกว่ารึเปล่า ต้องดูช่วงราคาทองขึ้น-ลง ติดตามข่าวและใช้วิจารณญาณกันเองนะคะ) หรือ จะเอาเป็นทองเส้นเล็กๆ ที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน หรือ 2 อย่างคละๆกันไป … ตัดสินใจกันเองนะคะ

- คนที่คิดงอแง หรือ น้อยใจ ว่าทำไม ... ได้แค่นี้ ... หรือ ทำไมพ่อแม่สามีซื้อให้แค่นี้ หรือ สามีเราซื้อให้แค่นี้ ... อย่าน้อยใจไปเลย ... เพราะว่า ถ้าแฟนคุณเป็นคนดี เป็นคนขยัน และรักคุณ รวมทั้งตัวคุณก็ใช้เงินเป็น ทำมาหากินเก่ง ... ไม่ต้องกลัวเลย ... ในอนาคต คุณ 2 คน ได้ซื้อแหวน ซื้อทอง ซื้อทับทิม ซื้อสร้อย อีกหลายเส้น อีกหลายวง แน่ๆ ไม่ต้องกลัวค่ะ

.

.

เป็นเรา เราจะไม่หวังกับสินสอด หรือ ทองหมั้นที่มาขอค่ะ (ให้มันพอสมควร พอประมาณตามที่ผู้ใหญ่ 2 ฝ่ายโอเครู้ใจกันก็พอแล้วค่ะ) เพราะเรารู้ว่านั่นเป็นของสำหรับพิธี ... และประเพณีไทยมันเป็นเช่นนี้ ... เราหวังให้ในอนาคตรักกันให้ดีๆกันมากกว่า เพราะถ้ารักกันดี & ขยันทำมาหากินทั้งคู่ จะช่วยกันทำให้ทรัพย์สินเพิ่มพูน ชีวิตครอบครัว มีความสุขได้ ครอบครัวอบอุ่น ... ตัวอย่างนี้ ไม่ไกลจากตัวเราเลย ... พ่อแม่เราเองค่ะ

วิธีติดต่อเรา (UPDATE ใหม่)

Inbox มาที่ คู่มือจัดงานแต่งงาน by OPONG จะมาทยอยตอบค่ะ ^__^

ป.ล. ขอเผื่อเวลาดูแลคนที่บ้านนิสนุงง บางทีตอบช้านะคะ

#35 คอร์สออนไลน์ Wedding Review คู่มือจัดงานแต่งงาน

ในยุคปัจจุบัน การรันคิวงานแต่งงาน และจัดงานแต่งงานด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะ SkillLane ได้ร่วมมือกับคุณปาณิศา กิตติกรัยฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ WeddingReview.net ร่วมทำคอร์สเรียนออนไลน์ Wedding Review คู่มือจัดงานแต่งงาน ในราคาโปรโมชั่นเพียง 1,500 บาท

ซึ่งคู่บ่าวสาวและผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีเตรียมตัวจัดงานแต่งงาน พร้อมทั้ง วิธีรันคิวงานแต่งงาน ด้วยตัวเอง ทั้งพิธีแต่งงาน พิธีหมั้นไทย และ งานเลี้ยงฉลองวิวาห์ โดยสามารถเรียนได้ทางออนไลน์ หากไม่เข้าใจสามารถกลับมาเรียนซ้ำได้ และจะได้เข้า กลุ่ม Facebook ที่มีคุณโอและหมอป้อง คอยดูแลและตอบคำถามข้อสงสัยเรื่องการจัดงานแต่งงาน จนงานแต่งงานสำเร็จลุล่วง แฮ้ปปี้ทั้งคู่บ่าวสาวและครอบครัว

This post was created with our nice and easy submission form. Create your post!

Report

What do you think?

0 Points
Upvote
แต่งงานโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ (GRAND HYATT ERAWON)

รีวิวแต่งงาน: งานแต่งคุณน้ำผึ้ง & คุณพลาย แต่งงานโรงแรม Grand Hyatt Erawan

โรงแรมจัดงานแต่งงานในกรุงเทพ | ราคา & แพกเกจงานแต่งงาน