โรงแรม & ฤกษ์งานแต่ง (9/35)

อย่างที่บอกไว้บนๆ ว่า เดือนตุลาคม – มีนาคม เป็นเดือนที่คนแต่งงานเยอะมากกกกกกก
ตอนแรก เรากับแฟนเคยไปดูสถานที่กัน (เล่นๆนะ) ไปดูก่อนกำหนดที่คาดว่าจะแต่งประมาณ 9 เดือน … ปรากฏว่า … สถานที่ที่อยากได้มีคนวางมัดจำไปแล้วค่ะ เต็มเกือบหมด

จากที่เราเจอมานะคะ .. สมมติไปดูสถานที่เดือน มกราคม 2558 ต้องการแต่งงาน เดือนตุลา,พฤศจิกา หรือ ธันวา ปี 2558 … ห้องของโรงแรมดังๆ หรือ สโมสรดังๆส่วนใหญ่มีคนวางเงินมัดจำกันไปหมดแล้วค่ะ จองล่วงหน้ากันเป็นปีอะ … ดังนั้น ใครจะแต่งปีหน้า 2559 … โปรดรีบดูที่ & รีบจองค่ะ

สำหรับเดือนที่งานแต่งงานมีน้อย ก็จะเป็นเดือน เมษายน ค่ะ เราเคยถามผู้ใหญ่ว่าทำไมไม่ค่อยแต่งเดือนเมษายน คือได้คำตอบมาว่า มันเป็นเดือนร้อนไม่ค่อยดี ซึ่งถ้ามาพิจารณาจริงๆ มันร้อนจริงๆแหละ ก็เพราะมันเป็นหน้าร้อน!!! นึกถึงเจ้าบ่าวแห่ขันหมากมาขอสิคะ … เหงื่อแตก เช็ดทีรองพื้นหาย หรือเวลาถ่ายรูป ก็จะได้รูปแบบแห่ขันหมากเหงื่อตก T_T สงสารคนแห่มากมาย

——————————————————-

แพ็กเกจสถานที่จัดงานแต่ง ล่าสุด >> แพกเกจสถานที่จัดงานแต่งงาน และสามารถ Search เอาจากใน Google

ฤกษ์แต่งงาน

– เรากับแฟนเลือกเอาวันที่สะดวก & โรงแรมว่างค่ะ

โรงแรม

ก่อนเลือกโรงแรม และดูจำนวนแขก อย่างที่บอกไว้ใน คห. บนๆค่ะ เราต้องดูด้วยว่างานนี้เป็นงานใคร เป็นงานกันเองๆเฉพาะญาติกับเพื่อนฝูง หรือ เป็นงานขอบคุณผู้ใหญ่ เป็นงานที่มีแขกคุณพ่อคุณแม่มาด้วย

งานกันเอง
– เหมาะสำหรับงานที่มีเฉพาะญาติสนิท และเพื่อนฝูง

งานแบบค่อนข้างทางการ
– เหมาะสำหรับงานที่มีแขกผู้ใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่และญาติๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่ทำงานของคุณพ่อคุณแม่ & สามี และตัวเราค่ะ

——————————————————-

ค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร & โรงแรม

บางคน มีงบประมาณในดวงใจ ดีมากๆเลยค่ะเป็นการวางแผนที่ดีมากๆ แต่เวลาปฏิบัติจริง… ต้องเผื่อไว้ด้วยค่ะ เราจะต้องดูว่ามันเป็นงานกันเอง หรืองานผู้ใหญ่ แล้วค่าอาหารในโรงแรม-สโมสร จะมีให้เลือกเป็น PACKAGE ค่ะ อาหารจะให้เลือกว่าจะรับเป็น COCKTAIL / BUFFET / โต๊ะจีน (แล้วถ้าจะมีซุ้มอาหารเข้ามาเพิ่ม ก็จะต้องเสียค่านำเข้าเพิ่มค่ะ ค่านำเข้า 2-3 หมื่น อะไรก็ว่าไปต้องจ่ายให้โรงแรมไปฟรีๆค่ะ แต่ละที่คงคิดเรทไม่เท่ากันนะ ลองคุยกับเซลล์โรงแรมดูค่ะ) นอกจากนี้ จะมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยในการตกแต่งงานค่ะ

สมมติว่า คำนวณแล้ว จำนวนแขกทั้งหมดประมาณ 100 คน

ถ้าจัดโต๊ะจีน โต๊ะนึงนั่งได้ประมาณ 10 คน ราคาโต๊ะละ 10,000 บาท ค่าใช้จ่ายก็จะประมาณ 100,000 บาท หรือ ….
จัด Cocktail ราคา 1000บาท/ท่าน แขก 100 คน ก็ 100,000 บาท
ถ้าแขก 500 คน ก็ 500,000 บาท

แต่……. ความเป็นจริงมันไม่ได้มีแค่นั้นอะค่ะ

อันนี้ต้องดูโรงแรมด้วยค่ะ ราคา PACKAGE แต่ละโรงแรมไม่เท่ากันค่ะ อาหารก็จะมีให้เลือกหลายเมนู แนะนำให้เข้าไปคุยกับเซลล์โรงแรมค่ะ

– บางโรงแรม/สโมสร ก็จะมีการจำกัดจำนวน เช่น ต้องมีแขกมากกว่า 300 คนขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะเปิดให้ใช้งานห้องดังกล่าว
– ค่าใช้จ่ายนี้ ยังไม่รวมวงดนตรี, ตกแต่งเพิ่มเติม, Smoke & Bubble, ค่าไฟที่ใช้เกินเวลา, ค่าอะไรต่างๆ นาๆ จิปาถะยิบย่อย
– ถ้านำอาหารข้างนอกเข้ามาโรงแรมอาจ CHARGE ค่าใช้จ่ายเพิ่ม

วิธีของเรา

1. หาฤกษ์ กำหนดวันแต่งในดวงใจให้ได้ก่อน เลือกไว้ 4-5 วัน
2. ดูห้องโรงแรม จากในอินเทอร์เน็ตค่ะ หารีวิวดู ว่าห้องแต่ละที่เป็นอย่างไร และดูค่าใช้จ่ายแพ็กเกจที่มี POST ตามเว็บต่างๆคร่าวๆ
3. ถูกใจโรงแรมไหนก็โทรไปถามค่ะ โทรเบอร์เซลล์โรงแรม ที่ดูแลด้านเช่าสถานที่จัดงานแต่งงานโดยตรง
4. คุยกับเซลล์ ถามว่าวันที่…ๆๆ ห้องว่างมั้ย มีห้องอะไรบ้าง
5. ถ้าโอเค ถูกใจก็นัดเข้าไปคุยกับทางโรงแรมค่ะ
6. ถ้าตกลงจะใช้สถานที่ก็จะมีการเซ็นสัญญา – เลือก PACKAGE – เลือกห้อง – วางมัดจำ
7. วางมัดจำแล้ว ต่อไปเป็นการเลือกอาหาร และเลือกสิ่งของต่างๆตามที่โรงแรมมีให้ค่ะ เช่น สีผ้าปูโต๊ะ ฯลฯ (อันนี้ต้องคุยกับโรงแรมว่า PACKAGE ที่เราเลือก มีอะไรให้เราบ้าง)
8. เราจัดเลี้ยงแบบ COCKTAIL ค่ะ และสั่งซุ้มอาหารของโรงแรมเพิ่ม
9. ก่อนวันแต่ง ก็จะมีนัดแนะ คุยลำดับงาน, PLAN ผังการจัดสถานที่ว่าอะไรอยู่ตรงไหน, ส่งไฟล์ VDO PRESENTATION และ เพลงให้โรงแรมลองเปิด, กัปตันห้องจะช่วยดูแลบ่าว-สาวอย่างไรบ้างในวันงาน และ ให้เบอร์โทร & รายชื่อ ช่างและทีมงานที่จะเข้าไปทำงานในวันงานค่ะ อาทิ ช่างแต่งหน้า ช่างจัดดอกไม้ เป็นต้น
10. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆ จะคิดและชำระอีกครั้งหลังวันแต่งค่ะ

 

[shortcode-variables slug=”course”]

แบ็กดร็อปแต่งงาน (8/35)

ช่างแต่งหน้าเจ้าสาว & เจ้าบ่าว (สำคัญมากกก) (10/35)