อัปเดตใหม่ล่าสุด กับ 50 ‘ที่เที่ยวญี่ปุ่น’ สำหรับคนที่วางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองต้องไป ห้ามพลาดเป็นอันขาด! ในวันนี้ TravelDiDi.com ได้รวบรวม สถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่น สวย ๆ ทั้งใน โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฮอกไกโด ที่เที่ยวเล่นหิมะในญี่ปุ่น สถานที่ชมวิว ดอกซากุระ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว ลานสกี ลานหิมะ และอีกมากมาย มาฝากทุกท่าน ใครกำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง มาชมกันเลย!
Editorial credit: IamDoctorEgg / Shutterstock.com
1.ถนน Fuji-Michi – ที่เที่ยวญี่ปุ่น จดถ่ายรูปวิวฟูจิ ในชิโมโยชิดะ
ถนน Fuji-Michi Street เป็นหนึ่งใน ‘ที่เที่ยวญี่ปุ่น’ ยอดฮิต โดยถนนชื่อดังแห่งนี้ มีชื่อเสียงที่สุดในการชมวิวภูขาไฟฟูจิ ด้วยความที่มีหน้าวิวเป็นเมือง Shimoyoshida และมีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง ทิวทัศน์เพอร์เฟ็กสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแบบถ่ายรูป เที่ยวได้ทุกฤดูกาล … เหมาะสำหรับไปเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับ ไม่จำเป็นต้องค้างคืนอีกด้วย เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียว สามารถขึ้นรถบัสจากสนามบินนาริตะ หรือ High-way Bus ที่ชินจูกุ และสถานีโตเกียวสเตชั่นไปก็ได้เช่นกัน หรือหากใครซื้อบัตร Tokyo Wide Pass ไว้ ก็สามารถนั่งรถไฟไปลงสถานี Kawaguchiko Station ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ไป เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถเช่ารถพร้อมบริการคนขับ หรือ เช่ารถขับเองในญี่ปุ่นได้
2. แม่น้ำเมกุโระ – ที่เที่ยวญี่ปุ่น จุดชมซากุระโตเกียว ยอดนิยม
เที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายน ห้ามพลาด! มีสิ่งที่ต้องทำคือชมดอกซากุระบานที่โตเกียว และจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงต้น ๆ ในโตเกียว ก็คือ แม่น้ำเมกุโระ ที่ไหลจากเขตเซตากายะไปยังเขตชินางาวะในโตเกียว ซึ่งระหว่าง ปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน จะมีดอกซากุระบานอย่างสวยงามกว่า 800 ต้น รอบแม่น้ำที่มีความยาว 3.8 กิโลเมตรโดยประมาณ คุณสามารถเช่าชุดกิโมโน เดินเล่น ถ่ายรูป หรือเช่าเรือ ทำกิจกรรมอื่น ๆ ใช้เวลาทั้งวันเพลิดเพลินได้ที่นี่ … TravelDiDi ขอแนะนำให้เริ่มต้นทัวร์จากย่าน “นากาเมกุโระ (Naka-Meguro)” สุดฮิปและเดินไปทางใต้สู่เมกุโระ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเดินไปทางเหนือเพื่อไปยังสถานี Ikejiri-ōhashi Station ได้เช่นกัน
3. คาวากูจิโกะ – เมืองท่องเที่ยวออนเซน วิวฟูจิ เที่ยวได้ทุกฤดู
ทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็นแลนด์มาร์กสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่สำคัญ และ ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่สามารถเที่ยวได้ทุกฤดู สามารถจัด 1 Day Trip ไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ง่ายที่สุด เดินทางด้วยรถไฟและรถบัสเชื่อมต่อโดยตรงจากโตเกียว ทัศนียภาพที่คาวากูจิโกะจะสวยเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง ปลายเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน และช่วงดอกซากุระบานในฤดูใบไม้ผลิปลายเดือนมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน
คาวากูจิโกะ เป็นเมืองรีสอร์ทบ่อน้ำพุร้อนที่มีโรงแรมและที่พักแบบเรียวกังและออนเซ็น เทรนด์ห้องพักในคาวากูจิโกะที่นักท่องเที่ยวนิยมก็คือ ที่พักที่มีวิวฟูจิ ที่เสิร์ฟอาหารค่ำแบบไคเซกิสัมผัสวัฒนธรรมการกินแบบญี่ปุ่น และพบประสบการณ์ห้องพักแบบฟูกญี่ปุ่นนุ่ม ๆ สีขาว และโต๊ะอุ่นขา พร้อมกับเข้าพิธีดื่มชา ชิมขนมญี่ปุ่นในชุดยูกาตะ แช่ออนเซ็นน้ำพุร้อน ๆ เคล็ดลับบำรุงผิวให้งดงามของชาวญี่ปุ่น
Editorial credit: Usa-Pyon / Shutterstock.com
4. Super Nintendo World – เพลิดเพลินในสวนสนุกมาริโอ้ โซนใหม่ล่าสุดใน USJ
เกิดมาเพื่อเล่น! รวมทีมกับเพื่อนต่อสู้กับคู่แข่งและเพิ่มพลัง ดื่มด่ำกับความตื่นเต้นทั้งครอบครัวกับ ‘ที่เที่ยวญี่ปุ่น เปิดใหม่ ในโอซาก้า’ โซนสวนสนุก Super Nintendo World ใน Universal Stuido Japan Osaka บอกเลยว่าแฟนคลับเกมนินเทนโด้ห้ามพลาดเป็นอันขาด!
คำแนะนำ
- สามารถซื้อบัตรสวนสนุก Universal Studio Japan ออนไลน์ ล่วงหน้า ประหยัดเวลารอคิว
Editorial credit: StreetVJ / Shutterstock.com
5. Shibuya SKY
ที่เที่ยวโตเกียวใหม่ล่าสุด ที่ควรค่าแก่การไปเยือน ‘Shibuya SKY’ เป็นหอดูดาวแบบ 360 องศาที่สามารถมองเห็นวิวชิบูย่าและเส้นขอบฟ้าของโตเกียวได้ที่นี่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นสุดล้ำเปิดใหม่ล่าสุด! ตั้งตระหง่านเหนือห้าแยก Shibuya Crossing ที่พลุกพล่าน สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่ไม่มีใครเทียบได้เหนือเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ชมทิวทัศน์ที่น่าทึ่งบนชั้นดาดฟ้า คุณสามารถสังเกตเห็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของญี่ปุ่นได้จากที่นี่ เช่น โตเกียวทาวเวอร์ สนามกีฬาโตเกียว และแม้แต่วิวภูเขาไฟฟูจิ (ในวันที่อากาศแจ่มใส) นอกจากวิวที่สวยงามแล้ว ที่ชั้นดาดฟ้ายังมีเปลญวณสำหรับชมเมฆและสังเกตการณ์ เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ที่สามารถชิววิวสวยและพักผ่อนใจได้อย่างดี
คำแนะนำ
- สามารถซื้อบัตร The SHIBUYA SKY Observatory E-Ticket ออนไลน์ล่วงหน้าได้ โดยไม่ต้องเข้าคิว
Image Credit: TeamLab Planets TOKYO
6. พิพิธภัณฑ์ Teamlab Borderless – teamLab Planets TOKYO museum
‘ที่เที่ยวในโตเกียว‘ สุดฮิปที่เหล่าคนดังและเซเลปนิยมไป เป็นนิทรรศการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งรวมเอาไว้ทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน เพลิดเพลินกับนิทรรศการศิลป์ ผ่อนคลายกับบรรยากาศ ที่ให้คุณสัมผัสทั้งรูป กลิ่น เสียง และยังมีร้านคาเฟ่ให้ได้หย่อนใจ
คำแนะนำ
- เตรียมตัวเปียกกับการเดินลุยน้ำซึ่งมีกางเกงขาสั้นให้เปลี่ยน แต่หากใครอยากได้รูปสวย ๆ ก็แนะนำให้ใส่ชุดสีขาวและเตรียมชุดไปด้วยตัวเอง เพราะว่าชุดที่ให้ยืมเป็นสีดำ
- ภายในมีห้องกระจก หากใส่กระโปรงโปรดระวังเห็นภาพสะท้อนกางเกงใน
- ไม่ควรนำกระเป๋าเดินทางลากใบใหญ่หรือใบเล็กไป เพราะว่าล็อกเกอร์ใส่ไม่ได้ แต่มีที่ฝากกระเป๋าภายนอก
- สามารถซื้อบัตรเข้า Teamlab Borderless ล่วงหน้าได้ทางออนไลน์ ประหยัดเวลารอคิวเข้าได้มากเลยทีเดียว
7. ทะเลสาบ Yamanakako – ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาทะเลสาบฟูจิทั้งห้า
ทะเลสาบยามานากะโกะ (Yamanakako Lake) เป็น ‘ที่เที่ยวญี่ปุ่น’ ที่นิยมในหมู่คนญี่ปุ่นผู้ชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง เช่น พายเรือ ตกปลา สกีน้ำ วินด์เซิร์ฟ และกีฬาทางน้ำอื่น ๆ รวมถึงการตั้งแคมป์ เล่นเทนนิส และกิจกรรมอื่น ๆ ริมชายฝั่ง เช่น บาร์บีคิว และตกปลา Smelt Fishing ให้ร้านอาหารนำมาทอดเทมปุระทานร้อน ๆ ได้
สถานที่ท่องเที่ยว ใกล้ ๆ คาวากูจิโกะ นี้ ยังมีไฮไลท์เป็นบรรดาเหล่าหงส์ และปลาคาร์ฟ ที่คุณสามารถแวะเดินเล่นริมทะเลสาบให้อาหารปลา ซึ่งจะมีหงส์ขาวและนกตัวน้อยเข้ามาหาเพื่อขอกินอาหารปลาด้วย โปรดระวังหงส์ฉก! เจ้าพวกนี้ค่อนข้างดุและระมัดะรังตัวเป็นพิเศษ คุณสามารถใช้เวลาเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่นี่ได้ครึ่งค่อนวัน และทะเลสายามานากะโกะยังตั้งอยู่ไม่ไกลจาก ‘หมู่บ้านน้ำใส โอชิโนะฮักไก’ ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยรถบัสประจำทางหรือรถแท็กซี่
กิจกรรมน่าทำ ในสถานที่ท่องเที่ยว ‘ทะเลสาบ ยามานากะโกะ’ ประเทศญี่ปุ่น
- ปั่นจักรยาน ชมวิวภูเขาไฟฟูจิรอบทะเลสาบ
- นั่งเรือรูปหงส์ขนาดใหญ่ ตั๋วเรือ 1,000 เยน เดินตามเส้นทาง L ในทะเลสาบ ชมวิวภูเขาไฟฟูจิจากกลางทะเลสาบ
- นั่งรถฮิปโปสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ‘KABA BUS’ ชมวิว Sighseeing บริเวณทะเลสาบยามานากะโกะ ก่อนผจญภัยลงน้ำ!
Editorial credit: Hannari_eli / Shutterstock.com
8. โปเกม่อนคาเฟ่ โตเกียว! – สาขา Takashimaya Nihombashi
ที่เที่ยวญี่ปุ่นสำหรับแฟนคลับโปเกม่อน! ในร้าน Pokémon Café มีทั้งอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มแสนอร่อยมากมาย เสิร์ฟในธีมโปเกม่อน รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกและของเล่น ถูกใจสาวกโปเกม่อนแน่นอน ซึ่งนอกจากที่โตเกียวแล้ว คาเฟ่โปเกม่อนก็ยังมีสาขาที่โอซาก้าเช่นเดียวกัน
วิธี เดินทาง ไป คาเฟ่โปเกม่อน โตเกียว
ร้าน Pokémon Café ตั้งอยู่ในห้าง Takashimaya Shopping Center สาขา Nihombashi
- เดิน 5 จากสถานี JR Tokyo Station ทางออก Yaesu North Exit
- นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย Ginza และ Tozai Lines ลงสถานี Nihombashi Station ทางออก B2 Exit
- เดิน 4 นาที จากสถานี Nihombashi Station สาย Asakusa Line
Editorial credit: image_vulture / Shutterstock.com
9. ยูระคุโช (Yurakucho) – ตรอกที่รวมร้านลับ Izakaya ใต้รางรถไฟ
ยูระคุโช (有楽町) เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในชื่อ “ย่าน Izakaya” ซึ่งอยู่ใต้รางรถไฟ หรือมักเรียกกันว่า ”Gado Shita (ガード下)” มีร้านอิซากายะหรือผับสไตล์ญี่ปุ่นเล็ก ๆ หลายร้อยแห่งตามทางและใต้ทางรถไฟไปยังสถานีชิมบาชิ เรียกได้ว่าเป็น ‘ร้านลับในโตเกียว’ ของจริง! … ย่านยูระคุโชตั้งอยู่ระหว่างย่าน ‘กินซ่า’ และ ‘มารุโนะอุจิ’ และเนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างย่านช้อปปิ้งที่หรูหราและย่านธุรกิจ ที่นี่จึงเป็นที่ที่ดีที่จะได้สัมผัสวิถีมนุษย์เงินเดือน ที่ชาวญี่ปุ่นท้องถิ่นไปกิน ดื่ม เที่ยว หลังเลิกงาน
Photo Credit: ©Studio Ghibli
10. สวนสนุก Ghibli Park – สานฝันคนชอบสตูดิโอจิบลิ!
สวนสนุกเปิดใหม่ ตั้งอยู่ในเมืองนากาคุเตะ (Nagakute) ในจังหวัดไอจิ (Aichi) ประเทศญี่ปุ่น แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ที่โด่งดังที่สุดของ Studio Ghibli! ตั้งอยู่บนพื้นที่เนินเขาเขียวชอุ่มของสวนโมริโคโระ คงไว้ซึ่งความงดงามตามธรรมชาติที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอนิเมชั่นเขียวชอุ่มของ Ghbli เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022
วิธีเดินทางไปสวนสนุกจิบลิ
- ตั้งอยู่ในสวน Expo 2005 Aichi Commemorative Park (Moricoro Park) เมืองนากาคุเตะ จังหวัดไอจิ … ค่าเข้าฟรี แต่มีค่าบัตรสวนสนุกแต่ละแห่ง
Image credit: Universal Studios Japan
11. สวนสนุก Jujutsu Kaisen – พร้อมที่จะท้าทายวิญญาณที่ถูกสาปหรือไม่?
แฟน ๆ อนิเมะ Jujutsu Kaisen มหาเวทย์ผนึกมาร ห้ามพลาด เพราะว่าที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคุณ! ที่เที่ยวญี่ปุ่นเปิดใหม่ จัดขึ้นพิเศษเฉพาะวันที่ 16 กันยายน 2022 – 2 กรกฏาคม 2023 มีการแสดง Jujutsu Kaisen Real 4D และมีจุดถ่ายรูปสุดพิเศษที่มี Satoru Gojo ขนาดใหญ่เท่าของจริงและร้านอาหารตามธีม!
12. Zao-onsen Ski Resort – เล่นสกี ชมปีศาจหิมะ ที่ภูเขาซาโอะ!
ซาโอะสกีรีสอร์ท เป็นหนึ่งในลานสกีรีสอร์ทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นพิกัด ที่เที่ยวเล่นหิมะ เล่นสกี ใกล้โตเกียว ที่มีไฮไลท์เป็นปีศาจหิมะ (Snow Monster) ชมทิวทัศน์ภูเขาหิมะสีขาวโพลนตระการตา ที่นี่มีลิฟต์กอนโดล่าและกระเช้าลอยฟ้ากว่า 30 แห่ง รวมทั้งคอร์สสอนสกีและสโนว์บอร์ดต่าง ๆ สำหรับผู้เล่นทุกเลเวล!
Editorial credit: julianne.hide / Shutterstock.com
13. Nihonbashi Art Aquarium Ginza
เดินเล่นเพลิดเพลินชมนิทรรศการศิลปะที่มีปลาทองและปลาคาร์ฟ แหวกว่ายอยู่ในภาชนะแก้วกว่า 30,000 ตัว ใน Nihonbashi Art Aquarium ย่านกินซ่า หลังชมจนอิ่มใจแล้ว สามารถแวะเดินเล่นช้อปปิ้ง แวะกินอาหารหลากหลายสัญชาติ หรือ สุกี้ยากี้ และเนื้อย่างที่ร้าน Imahan ร้านที่เชี่ยวชาญด้านเนื้อวัว A5 คุโรเกะ พันธุ์ขนดำ ยอดฮิตที่ชาวญี่ปุ่นนิยมชื่นชอบในย่านกินซ่า
Editorial credit: Chaay_Tee / Shutterstock.com
14. สวนปราสาทฟุนาโอกะ – หนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เงยมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพู! สวนปราสาทฟุนาโอกะ (Funaoka Castle Ruins Park) เป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดมิยากิ ไม่ไกลจากโตเกียว สวนแห่งนี้เป็นที่รู้จักจากรถไฟแบบย้อนยุคที่วิ่งผ่านยอดเขาที่เต็มไปด้วยดอกซากุระ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เพอร์เฟ็กสำหรับเทศกาล ‘ฮานามิ’ ชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิเที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายน นอกจากนี้ ยังมีแผงขายอาหารและเครื่องดื่ม บะหมี่ผัดและยากิโทริ นั่งทานใต้ต้นซากุระได้ เป็นจุดชมดอกซากุระที่เพอร์เฟ็กและเดินทางง่าย 2 ชั่วโมงจากโตเกียว
วิธีเดินทาง
- นั่งรถไฟจากเซนได ไปยังสถานี Funaoka 30 นาที และเดินไปสวนสาธาระใช้เวลาประมาณ 20 นาที
- เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นจากอูเอโนะ โตเกียว และต่อรถไฟท้องถิ่น ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
Image Credit: Setouchi Triennale / Setouchi Triennale Facebook
15. Setouchi Triennale – สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต ผ่านศิลปะในแถบเกาะ Setouchi
คนรักศิลปะไม่ควรพลาด! เทศกาลศิลปะนานาชาติ Setouchi Triennale จัดขึ้นทุก ๆ 3 ปี ในบริเวณ Setouchi ซึ่งจัดขึ้นเพื่อคืนความมีชีวิตชีวาให้กับเกาะต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ทะเล Seto Inland Sea มาสำรวจความงามของเกาะและเพลิดเพลินกับงานศิลปะของศิลปินจากทั่วทุกมุมของประเทศญี่ปุ่น สร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิต
เทศกาล Setouchi Triennale ปี 2022 จัดขึ้นสามฤดู
- ฤดูใบไม้ผลิ: 14 เมษายนถึง 18 พฤษภาคม
- ฤดูร้อน: 5 สิงหาคมถึง 4 กันยายน
- ฤดูใบไม้ร่วง: 29 กันยายนถึง 6 พฤศจิกายน
โดยจัดขึ้นทุก ๆ 3 ปี สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://setouchi-artfest.jp/en/
16. Magome (Magome-juku) – ย้อนยุค ชมเส้นทางการค้าสุดคลาสสิก อายุ 400 ปี ยุคเอโดะ
จากนาโกย่า คุณสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ‘หมู่บ้านมาโกเมะ’ (馬籠宿, มาโกเมะ–จูกุ) ที่เมืองนากัตสึงะวะ (Nakatsugawa) จังหวัดกิฟุ ชมเส้นทางการค้าโบราณอายุ 400 ปี สมัยเอโดะ ซึ่งถูกรักษาและบูรณะไว้อย่างสวยงาม ตั้งอยู่ในหุบเขาคิโซะที่นักเดินทางสมัยโบราณต้องเดินทางผ่าน โดยมาโกะเมะเป็นจุดแวะพักสำคัญตั้งอยู่บนนากะเซ็นโดะ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อระหว่างโตเกียวและเกียวโต … ชมความงดงามของบ้านเรือนและร้านค้าสมัยเอโดะของมาโกเมะ ที่ตอนนี้กลายเป็นร้านค้า ร้านบูติก ร้านอาหาร และเรียวกัง (ที่พักแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม) เป็นหมู่บ้านที่น่าท่องเที่ยวมาก ให้ความรู้สึกย้อนยุคเข้าสู่บรรยากาศญี่ปุ่นสมัยโบราณ สำหรับใครที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติและสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นสมัยก่อน ห้ามพลาดเป็นอันขาด
การเดินทางไปมาโกะเมะ
สามารถขึ้นรถด่วนสาย Shinano Express (JR Chuo Main Line) ที่สถานีรถไฟ JR Nagoya Station นาโกย่า ไปลงที่สถานี JR Nakatsugawa และหลังจากนั้น ต่อรถบัสไปลงที่ Magome-juku ซึ่งเชื่อมต่อกับ Tsumago-juku ด้วยรถบัสเช่นกัน
Editorial credit: OTTO-FOTO / Shutterstock.com
17. Naritasan Omotesando Street – เที่ยวถนนคนเดิน ย้อนยุคสมัยเอโดะ ที่นาริตะซัง
ไม่ไกลจากสนามบินนาริตะ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวสุดงดงามในญี่ปุ่น ‘ถนนนาริตะโอโมเตะซันโดะ (Naritasan Omotesando) ถนนเก่าแก่สมัยเอโดะที่เรียงรายไปด้วยร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารแบบดั้งเดิมที่นำทางไปสู่วัดนาริตะซัง สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของนาริตะซังได้ภายในร้าน ซึ่งยังคงรักษาบรรยากาศบ้านแบบสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมเอาไว้ได้ ความเจริญรุ่งเรืองในฐานะเมืองแห่งวัดตั้งแต่ยุคเอโดะ ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายให้สัมผัสได้
วิธีเดินทาง
เดินประมาณ 10 นาที จากสถานี Narita Keisei ชิมขนมและอาหารมากมาย โดยของฝากขึ้นชื่อของที่นี่คือปลาไหลญี่ปุ่นและข้าวเกรียบเซมเบ้
18. สวนสนุก Fujikyu HighLand – หวาดเสียวไปกับโรสเลอโคสเตอร์ Eejanaika Roller
หากคุณมีเวลา 1-2 วันในคาวากูจิโกะ เราอยากเชิญคุณมาลองเครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์สุดหวาดเสียวที่ สวนสนุก Fujikyu Highland สถานที่ท่องเที่ยวใกล้โตเกียว เดินทางเพียง 2-3 ชั่วโมง ซึ่งสามารถนั่งรถบัสแบบ 1 Day Trip จากโตเกียวมาลงที่สวนสนุกแห่งนี้โดยตรงเลยก็ได้ สะดวกมาก … หลังจบไฮไลท์เครื่องเล่นในสวนสนุกแล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ภูเขาไฟฟูจิให้ได้ถ่ายรูปฟิน ๆ และยังสามารถขึ้นรถบัสไปลงที่สถานีคาวากูจิโกะเพื่อลิ้มลองอ่านขึ้นชื่อประจำถิ่นของที่นี่ ‘โฮโตะ อูด้ง’ เมนูอูด้งยอดนิยม หรือหากโชคดีจองคิวได้ ที่คาวากูจิโกะก็มีร้านเนื้อย่างหินภูเขาไฟให้คุณได้ลอง
ร้านอาหารน่าทานในคาวากูจิโกะ
- ร้าน Makigari หมูและเนื้อย่างหินภูเขาไฟ ชื่อดังใกล้สวนสนุก Fujikyu Highland
- โฮโตะ อุด้ง ที่ร้าน Houtou Fudou
- ร้าน Fuji Tempura IDATEN ร้านเทมปุระอร่อย ๆ ใกล้สถานีคาวากูจิโกะ
19. สวนสนุก Beauty and The Beast – โตเกียวดิสนีย์แลนด์
ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ มีเครื่องเล่นใหม่ “Enchanted Tale of Beauty and the Beast” (Japanese: 美女と野獣 “魔法のものがたり”) เอาใจสาวกและบรรดาแฟนคลับเจ้าหญิงเบลล์จากการ์ตูนโฉมงามกับเจ้าชายอสูรของวอลท์ดิสนีย์ สถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวแห่งนี้ พาคุณเพลิดเพลินเป็นโซนขนาดใหญ่ที่มีทั้งปราสาทของอสูร บาร์ของแกสตอง และร้านขายของที่ระลึกตกแต่งเป็นธีมของหมู่บ้านที่เบลล์อาศัยอยู่ เพลิดเพลินไปกับสวนที่เป็นทางเดินในสวนเข้าปราสาท จำลองบรรยากาศเสมือนคุณเป็นเบลล์เดินเข้าปราสาทก่อนที่จะเจอถ้วยชาและนาฬิกาที่พูดได้ในภาพยนตร์การ์ตูน และพบกับเครื่องเล่นต่าง ๆ และในส่วนของร้านอาหารนั้น ตกแต่งในธีมบาร์ของแกสตอง เสิร์ฟครัวซองต์ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ สัมผัสและซึมซับบรรยากาศจากภาพยนตร์การ์ตูนที่คุณชื่นชอบจนพอใจ ซื้อของที่ระลึกธีมโฉมงามกับเจ้าชายอสูรกลับบ้าน รวมสินค้าเกี่ยวกับ Beauty and The Beast ที่น่ารักสุด ๆ
20. เที่ยวโอเมืองโอชู – สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น
โอชู เป็นเมืองในจังหวัดอิวาเตะ ประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่ง เช่น สวนมรดกเอซาชิฟูจิวาระ พิพิธภัณฑ์เพื่อสันติภาพ วัดโคคุเซกิจิ และ วิวในภาพด้านบนนี้ คือ ทิวทัศน์ของทะเลสาบโอชู ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน สวยงามจับใจ คุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติ ภูเขา และป่าไม้อันเงียบสงบ และความสะดวกสบายของร้านค้าต่าง ๆ ในเมือง รวมถึงสถานีรถไฟที่มีรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็นวิ่งผ่าน
21. วัดรุริโคอิน – จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโต งดงามจนแทบลืมหายใจ
เกียวโตเป็นเมืองที่มีความสวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล แต่จะงดงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีทั่วเมืองเกียวโต และที่ทางตอนเหนือของเมืองเกียวโต ก็มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ‘วัดรุริโคอิน (Rurikoin temple)’ ที่โด่งดังในด้านทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ บนชั้นสองของอาคารโชอิน ที่เป็นภาพของใบไม้เปลี่ยนสีสะท้อนจากโต๊ะและพื้นเคลือบเงาของวัด ทำให้เกิดทิวทัศน์ราวกับอยู่ในฝัน สวยงามจนแทบลืมหายใจ
ตั๋วและฤดูกาลที่เปิดให้เข้าชม
วัดรุริโคอิน ในเกียวโต เปิดให้เข้าชมเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น โดยมีค่าตั๋วเข้าชมราคาประมาณ $20 หรือ 2,000 เยน (เด็กประถมเข้าฟรี)
Editorial credit: ItzaVU / Shutterstock.com
22. ตรอกทาเคชิตะ ฮาราจูกุ – ถนนสายคาวาอี้ชื่อดัง ที่ต้องมาสัมผัสสักครั้ง!
สัมผัสวัฒนธรรมคาวาอี้แบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริงที่ ‘ถนนทาเคชิตะ’ ในฮาราจูกุ ถนนยาว 350 เมตรแห่งนี้ เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายสีสัน ทั้งร้านเสื้อผ้า สินค้าสไตล์คาวาอี้ในราคาไม่แพง ร้านเครปญี่ปุ่นชื่อดังที่ควรไปลิ้มลองอย่างร้าน ‘Marion Crepes’ สาขา Harajuku และร้านสายไหมอันใหญ่ยักษ์อันเป็นเอกลักษณ์ ‘Totti Candy Factory’ … ถนนทาเคชิตะในฮาราจูกุเป็นถนนช้อปปิ้งที่พลุกพล่านและเต็มไปด้วยสีสัน เป็นแหล่งช้อปปิ้งของวัยรุ่นในโตเกียว ซึ่งนอกจากแฟชั่นคาวาอี้แล้ว คุณยังสามารถหาร้านแฟชั่นแนว Grunge และ Gothic ได้ที่นี่อีกด้วย
23. เทศกาลดอกไม้ไฟชินเม – ชมเทศกาลดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดยามานาชิ
ในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น มีเทศกาลท่องเที่ยวที่จัดแสดงมหกรรมโชว์ดอกไม้ไฟอย่างยิ่งใหญ่อลังการในวันที่ 7 สิงหาคมในอิชิคะวะมิซาโตะ จัดขึ้นบนริมแม่น้ำฟุเอฟูกิ ซึ่งทอดยาวขนานกับแม่น้ำคามานาชิ สามารถเลือกชมได้ทั้งจากสองฝั่ง แต่ทางฝั่งแม่น้ำคามานาชิมักจะมีคนน้อยกว่า ทำให้ไม่หนาแน่นอึดอัดเกินไปนัก … เทศกาลดอกไม้ไฟชินเมมีการจุดพลุดอกไม้ไฟมากกว่า 20,000 ลูก ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้เสียอีก! จุดเด่นของเทศกาลดอกไม้ไฟชินเมในญี่ปุ่นแห่งนี้ คือมักจะมีเสียงดนตรีประสานขณะจุดดอกไม้ไฟ
24. ชมดอกวิสทีเรียที่สวนคาวาชิฟูจิ – Kawachi Fuji Garden
หนึ่งในอุโมงค์ วิสทีเรีย ขึ้นชื่อในญี่ปุ่น อยู่ที่สวนคาวาชิฟูจิ (Kawachi Fuji Garden) เมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ชมความงามของดอกวิสทีเรีย อุโมงค์ทอดยาวสีม่วง งดงามราวกับอยู่ในเทพนิยาย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกวิสทีเรียที่ญี่ปุ่นคือ ช่วงปลายเดือนเมษายน – ต้นเดือนพฤษภาคม
Editorial credit: I am Corona / Shutterstock.com
25. หอคอยโตเกียว ทาวเวอร์ – สถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์กหลักของโตเกียว
หอคอย Tokyo Tower เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโตเกียว ข้างในมีหอดูดาวสองแห่ง และเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่หลังสงครามญี่ปุ่นในฐานะมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
ทุก ๆ วันเด็กของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกำหนดให้ตรงกับวันที่ 5 เดือน 5 ของทุกปี (5 พฤษภาคม) จะมีการเฉลิมฉลอง ครอบครัวต่าง ๆจะอธิษฐานขอให้เด็กผู้ชาย มีสุขภาพแข็งแรงและประสบความสำเร็จในอนาคต และแขวนผ้าคาดเอวรูปปลาคาร์พ (โคอิโนโบริ) และวางตุ๊กตาซามูไร ไว้นอกบ้าน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความแข็งแกร่ง อำนาจ และความสำเร็จในชีวิต ดั่งปลาคาร์พที่ว่ายทวนกระแสน้ำผ่านแม่น้ำอันยิ่งใหญ่และกลายเป็นมังกร และการจัดแสดงโคอิโนโบริที่มีชื่อเสียงที่สุดก็อยู่ที่ ‘โตเกียวทาวเวอร์’ นั่นเอง
Editorial credit: J. Henning Buchholz / Shutterstock.com
26. ซูโม่ทัวร์นาเมนต์ – ลุ้นระทึกกับการชมการแข่งขัน Grand Sumo ที่สนามกีฬา Ryōgoku Kokugikan
สัมผัสความตื่นเต้นของการแข่งขันซูโม่รับชมแมทช์สด ๆ ได้ในโตเกียว ซูโม่เป็นกีฬาประจำชาติของญี่ปุ่นและแต่ละปีจะมีการจัดการแข่งขัน Grand Sumo (หรือ Basho) ปีละ 6 รายการ โดยจัดในโตเกียว 3 รายการ ที่สนามกีฬา Ryōgoku Kokugikan อันมีชื่อเสียง และที่เหลือจัดที่จังหวัดอื่น ๆ เช่น โอซาก้า (มีนาคม) นาโกย่า (กรกฏาคม) และ ฟุกุโอกะ (พฤศจิกายน) โดยทัวร์นาเมนต์แต่ละรายการจะเริ่มต้นในวันอาทิตย์ โดยใช้เวลา 15 วัน หากคุณมีเวลาท่องเที่ยวในญี่ปุ่น อาจลองสัมผัสความมันส์และแข็งแรงของกีฬาชนิดนี้ในทริปญี่ปุ่น และอย่าลืมลองอาหารญี่ปุ่น ‘จังโกะนาเบะ’ หม้อไฟที่นักปล้ำซูโม่รับประทานกัน
Editorial credit: Korkusung / Shutterstock.com
27. ถนนต้นแปะก๊วยที่จิงกูไกเอ็น – ชมใบไม้เปลี่ยนสี สีเหลืองทองอร่ามในโตเกียว
สวนเมจิจิงกูไกเอ็น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวยอดนิยมในฤดูใบไม้ร่วงที่คุณสามารถชมใบแปะก๊วยเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองอร่ามทั้งถนน Jingugaien Ginko Avenue โดยจะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองตั้งแต่ต้นพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน โดยต้นแปะก๊วยที่เรียงยาวประมาณ 300 เมตรนี้ มีต้นแปะก๊วยทั้งสองข้างฝั่ง ราวประมาณ 150 ต้น
หากคุณกำลังวางแผนท่องเที่ยวทริปใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียวเดือนพฤศจิกายน ก็สามารถจองตั๋วเครื่องบินไปเที่ยวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีต้นแปะก๊วยที่นี่กำลังเหลืองอร่ามทั้งต้นพอดี อย่างไรก็ตาม ควรดูพยากรณ์และข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับใบไม้เปลี่ยนสีตอนช่วงใกล้ฤดูกาลอีกทีนะคะ
Editorial credit: Surachet Jo / Shutterstock.com
28. ย่านโดทงโบริ – ชิม ช้อป และ ถ่ายรูปกับกูลิโกะแมน แลนด์มาร์กสุดดังในโอซาก้า
สถานที่ท่องเที่ยวในโอซาก้าอันโด่งดัง เป็นที่จดจำและมีชื่อเสียงจากป้ายร้านอาหารและป้ายโฆษณา ทั้ง กูลิโกะแมน ปลาปักเป้าและปลาหมึกยัก รวมทั้งปูยักษ์ ที่สะดุดตา รู้สึกเหมือนเดินอยู่ในสวนสนุก อาหารที่ต้องกินเมื่อไปเที่ยวโดทงโบริคืออาหารประจำท้องถิ่น เช่น ทาโกะยากิและโอโคโนมิยากิ หรือบางท่านอาจลองทานขาปูยักษ์ ไปจนถึงเดินช้อปปิ้งรองเท้าร้าน ABC Mart และร้านค้าอื่น ๆ ในย่านนี้
Editorial credit: Sanga Park / Shutterstock.com
29. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Okinawa Churaumi – สุดทึ่งกับปลาฉลามวาฬขนาดใหญ่มหึมา
ที่จังหวัดโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำและทางทะเล และยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Okinawa Churaumi ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่และดีที่สุดในโลก แทงก์ของที่นี่ใหญ่พอที่จะจับฉลามวาฬเข้ามาอยู่อาศัยได้! อย่าพลาดชมฉลามวาฬขณะกำลังว่ายน้ำผ่านคุณ ที่นี่เป็นไฮไลท์ที่สุดสำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก ตื่นตาตื่นใจไปกับสัตว์ทะเลนับพัน
30. เที่ยวกันดั้มพาร์ค ที่ฟุกุโอกะ – Gundam Park and Statue Fukuoka
กันดั้มพาร์ค เป็นที่เที่ยวที่รวมความบันเทิงในธีม Mobile Suit Gundum ถูกใจสาวกกันดั้มเป็นที่สุด จำลองรูปปั้นหุ่นยนต์กันดั้มขนาดใหญ่เท่าของจริง! ถ่ายรูปให้ฟินกันไปเลย พร้อมกับเพลิดเพลินด้วยข้อมูลและเกมที่เกี่ยวข้องกับกันดั้ม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น จังหวัดฟุกุโอกะ ที่ห้ามพลาด
Editorial credit: Lesley Photograph / Shutterstock.com
31. ป่ากิโมโน – ศิลปะจิตวิญญาณที่มีเสน่ห์ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน
ในตอนกลางวันป่ากิโมโนจะดูสดใสไปด้วยสีสันของผ้ากิโมโนและแสงพระอาทิตย์ แต่ตกกลางคืน ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสุดงดงามในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีสเน่ห์และดูลึกลับ เสมือนเผยจิตวิญญาณอีกแบบหนึ่งออกมาหลังพระอาทิตย์ตกดิน .. ป่ากิโมโนนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ล้อมรอบสถานีรถราง Arashiyama บนเส้นทางรถราง Keifuku Randen ควรค่าแก่การเข้าชม ทั้งค่าตั๋วที่ฟรี และโดยเฉพาะในตอนเย็นหลังพระอาทิตย์ตกดิน ที่ต้นไม้ในป่าจะสว่างไสวด้วยไฟ LED ที่แต่งเติมสีสันให้ป่ากิโมโนมากยิ่งขึ้น
วิธีเดินทาง
- หากต้องการเดินทางไปอาราชิยามะ คุณสามารถขึ้นรถไฟสาย JR San-in จากสถานี Kyoto หรือ สถานี Nijo เพื่อเดินทางไปยังสถานี JR Saga-Arashyama ใช้เวลาประมาณ 12 นาที
หรือ
- สามารถขึ้นรถไฟสาย Keifuku Arashiyama (Randen) จากสถานี Shijo Omiya Station ไปลง Keifuku-Arashiyama Station และเดินต่อไปยังอาราชิยามะ ซึ่งใกล้กว่า
Editorial credit: poludziber / Shutterstock.com
32. ห้าง Tokyu Plaza – ช้อปปิ้งย่าน Omotesando Harajuku
ทางเข้าห้างที่สะดุดตาด้วยกระจกอันโดดเด่นแห่งนี้ กลายเป็นจุดดึงดูดและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียว ถ่ายรูปสวย ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม ถ่ายรูป และช้อปปิ้งที่ห้าง Tokyu Plaza ในฮาราจูกุ ทางเข้าด้านหน้ามีกระจกอยู่ทั่วทั้งผนังและเพดาน ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่ต้องเงยหน้าดูเมื่อขึ้นบันไดเลื่อน เรียกกันในชื่อ ‘Kaleidoscopic Mirrored Escalator’
33. อุโมงค์ใบเมเปิ้ล (Momiji Kairou) – ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายน
คาวากูจิโกะเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงดงามเป็นพิเศษ และรอบ ๆ ทะเลสาบคาวากูจิโกะที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศญี่ปุ่นนี้ ก็มีอุโมงค์ใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นไฮไลท์แหล่งที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี งดงามน่าชมเป็นพิเศษตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือน อุโมงค์ใบเมเปิ้ลเรียกกันอีกชื่อว่า “โมมิจิ ไคโร” (Momiji Kairou) โดยคำว่าโมโมิจิ แปลว่า ‘ใบไม้แดง’
วิธีเดินทาง
สามารถนั่งรถบัสประจำทาง ซึ่งวนรอบจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ใกล้ทะเลสาบคาวากูจิโกะ หรือ เช่ารถขับในญี่ปุ่น และสามารถจ้างแท็กซี่ได้
Editorial credit: picture cells / Shutterstock.com
34. ย่านกินซ่า – ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และทานอาหารอร่อย ย่านกินซ่า
Ginza (銀座) เป็นย่านช็อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโตเกียว ซึ่งมีห้างสรรพสินค้ามากมาย และบนถนน Chuo-dori ซึ่งแปลว่า “ถนนกลาง” เป็นถนนสายช้อปปิ้งหลักของกินซ่า ซึ่งปลายทางที่หัวมุมสุดถนนสามารถพบกับห้างสรรพสินค้า Wako และ Mitsukoshi Harumi-dori เป็นแหล่งช็อปปิ้งหลักอีกแห่งของกินซ่า หรือ คุณอาจไปเยือนห้าง GINZA SIX ซึ่งเป็นห้างไฮเอนด์อีกแห่งที่วัยรุ่นไฮโซนิยมไปเดินเล่น รับประทานอาหารกัน
ย่านกินซ่า เป็นย่านน่าพักอีกแห่งของโตเกียว ที่ค่อนข้างสะอาดและมีความปลอดภัย เหมาะสำหรับไปเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัว และเดินทางสะดวก มีที่พักใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า และสถานีรถไฟหลักของโตเกียวอย่าง Tokyo Station สามารถเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในโตเกียวได้อย่างสะดวก ทั้ง ตลาดปลาซึกิจิ, ตลาดปลาโทโยสุ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Teamlab Borderless, ย่านโอไดไบ และยังสามารถเดินทางไปย่าน Akasaka รวมถึง ชิบูย่า ฮาราจูกุ ชินจูกุ และ ซุมิดะ ได้อย่างสะดวกสบาย
Editorial credit: hunters-dream / Shutterstock.com
35. คลองโอตารุ – เสน่ห์แห่งฮอกไกโด
ฮอกไกโด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านอาหารทะเล และความอุดมไปด้วยธรรมชาติ ‘คลองโอตารุ’ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ ที่นิยมไปท่องเที่ยวชมทิวทัศน์อันสวยงามของคลองและ ตึก อาคาร โกดัง ย้อนยุค ฤดูน่าเที่ยวของฮอกไกโดคือทุกฤดู แต่จะโดดเด่นเป็นพิเศษในฤดูหนาว และในโอตารุก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นรสเลิศมากมาย ที่คุณห้ามพลาด เช่น ซูชิ ซาซิมิ และหม้อไฟร้อน ๆ ขาปูยักษ์ ปูขน และ หอยเชลอันเลื่องชื่อ
36. เทศกาลคามากูระ (Yunishigawa Kamakura) – เทศกาลชมหิมะ เมืองนิกโก้ จังหวัดโยชิกิ ประเทศญี่ปุ่น
ห้ามพลาดกับเทศกาลหิมะญี่ปุ่นของทุกปี ซึ่งไม่ไกลจากโตเกียวในจังหวัดโยชิกิ ก็มีเทศกาล “คามาคุระ” (Kamakura) ที่เป็นประเพณีฤดูหนาว มีงานประดับไฟในเมืองออนเซ็น ‘ยุนิชิงาวะ’ เมืองนิกโก จังหวัดโทชิกิ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี สัมผัสบรรยากาศ เล่นหิมะ และโรแมนติกกับงานประดับไฟซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
Editorial credit: Sean Pavone / Shutterstock.com
37. สวนสาธารณะมารุยาม่า – จุดชมดอกซากุระ เทศกาลฮานามิ ในจังหวัดเกียวโต
ชื่นชมความงามทางโลกธรรมชาติในเทศกาลฮานามิ ผู้คนรวมตัวกันใต้ดอกซากุระบาน รับประทานอาหาร เครื่องดื่ม ร้องเพลง พูดคุยกันอย่างมีความสุขที่ ‘สวนสาธารณะมารุยาม่า (Maruyama Park)’ ในเกียวโต โดยในช่วงต้นเดือนเมษายนเมื่อดอกซากุระบานสะพรั่ง สวนแห่งนี้จะกลายเป็นจุดชมดอกซากุระยอดนิยมและมีคนแห่มาเยือนแน่นที่สุดในจังหวัดเกียวโต! สวนสาธารณะมารุยามะเป็นที่รู้จักจากต้นซากุระแห่งกิออน มีการประดับไฟในช่วงกลางคืนต้อนรับผู้มาเยือนในบรรยากาศที่สวยงาม สดใส ต้อนรับฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
38. Shikisai-no-Oka – ชมดอกไม้วิวพาโรนามิกสวยงามแห่งฮอกไกโด
ในเมืองบิเอะ ฮอกไกโด มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง เขา ‘ชิกิไซ’ ที่เป็นตัวแทนทิวทัศน์ดอกไม้และธรรมชาติที่สวยงามแบบสมบูรณ์แบบให้คุณได้ชมวิวและถ่ายรูป … Shikisai no Oka มีความหมายแบบแปลง่าย ๆ ว่า เนินเขาแห่งสีสันตามฤดูกาล คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นรอบ ๆ สูดลมหายใจให้สดชื่นกับอากาศบริสุทธิ์และทัศนียภาพของดอกไม้และธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบที่นี่
39. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ – เที่ยวญี่ปุ่นฤดูใบไม้ผลิต้องมาที่นี่!
สวน Hitachi Seaside Park เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ เดินทางด้วยรถใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นจุดชมวิวที่คนนิยมมาท่องเที่ยวถ่ายภาพดอกไม้สีฟ้า ที่เรียกกันในชื่อ “Baby Blue Eyes” เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำในจังหวัดอิบารากิ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลกในฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะคนที่ต้องการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่ญี่ปุ่น ก็มักนิยมไปที่สวนฮิตาชิซีไซด์เช่นกัน
40. มิยาจิมะ (宮島) – เที่ยวญี่ปุ่นแบบ Unseen ชมเสาโทริลอยน้ำในมิยาจิมะ
เที่ยวญี่ปุ่นแบบ Unseen แวะชม ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) บนเกาะมิยาจิมะ (Miyajima) ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ สามารถเดินทางไม่ไกลจากเมืองฮิโรชิม่า ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง มีชื่อเสียงโด่งดังจากประตู ‘โทริอิ’ ขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนลอยอยู่บนน้ำในยามน้ำขึ้น ซึ่งมีทัศนียภาพสวยงามจับใจจนขึ้นชื่อและมักได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ดีที่สุดที่หนึ่งในญี่ปุ่น
Editorial credit: Navapon Plodprong / Shutterstock.com
41. เส้นทางทาเทยาม่า คุโรเบะ อัลไพน์ (Tateyama Kurobe Alpine) – ชมกำแพงหิมะ สุดอลังการ กับเส้นทางแอลป์ญี่ปุ่น
เปิดให้เข้าชมในช่วงกลางเดือนเมษายน เส้นทางแอลป์ทาเตยามะ–คุโรเบะ มีชื่อเสียงโด่งดังจาก ‘กำแพงหิมะ’ อันยิ่งใหญ่ สีขาวโพลนตระการตา ที่ตั้งอยู่บริเวณสถานีมูโรโดะ บนที่สูงประมาณ 2,450 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งกำแพงหิมะแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาทุกปี และเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อ ในชื่อ “หลังคาของญี่ปุ่น” (Roof of Japan) เช่นกัน โดยเส้นทางนี้ครอบคลุมจากจังหวัดโทยามจนถึงจังหวัดนะงะโนะ สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยรถไฟชินคันเซ็นได้จากโตเกียว
วิธีเดินทาง ไป เจแปนแอลป์ จากโตเกียว
คุณสามารถเดินทางชมวิวทิวทัศน์ที่มีชีวิตชีวาของภูเขาทาเทยามะในเทือกเขาแจแปนแอลป์ได้จากสถานีโองิซาวะ (Ogizawa Station) บนภูเขาฝั่งจังหวัดนางาโนะ หรือ จากสถานีทาเทยามะ (Tateyama Station) ที่ตั้งอยู่ในภูเขาฝั่งจังหวัดโทยามะ และจากโตเกียว สามารถนั่งรถไฟชินคันเซ็นขบวน Hokuriku Shinkansen ซึ่งหยุดจอดที่สถานี Nagano, Toyama และ Kanazawa ได้เช่นกัน
42. ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ – ถ่ายรูปกับเสาโทริอิสีแดงสดนับพันต้น
ศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ (Fushimi Inari-Taisha) เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต เป็นหนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นมรดกโลก ที่ควรค่าแก่การไปเยือน … ที่นี่เป็นศาลเจ้าหลักของ ‘Inari’ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งข้าว สาเก ความเจริญรุ่งเรือง และเป็นผู้อุปถัมภ์ด้านธุรกิจ การค้า และผู้ผลิต ซึ่งในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติมาไหว้และขอพรที่นี่เป็นจำนวนมากมาย
‘เสาโทริอิสีแดง’ เป็นภาพจดจำที่สวยงามที่มักทำให้คนนึกถึงศาลเจ้าอินาริและทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนปักหมุดนิยมไปเยือนเมื่อเดินทางไปเที่ยวเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และโด่งดังในชื่อของการเป็นศาลเจ้าแดงและเป็นสุนัขจิ้งจอก
43. สถานีโตเกียว (Tokyo Station) – ชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่อันงดงาม ที่แอบซ่อนไปด้วย ‘ร้านลับ’ ร้านอาหาร ร้านขนมสุดอร่อย แหล่งช้อปปิ้ง และการคมนาคมสถานีหลักของโตเกียว
ที่เที่ยวญี่ปุ่นอีกแห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวโตเกียวคือ “Tokyo Station” ซึ่งดูจากภายนอก อาจมองดูเหมือนเป็นสถานีรถไฟสถาปัตยกรรมคลาสสิก แต่หากได้เข้าไปข้างใน คุณอาจไม่เชื่อสายตาเพราะที่นี่รวมไว้ ทั้งร้านอาหาร เทคโนโลยี การคมนาคม รถไฟใต้ดิน รถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงชินคันเซ็น และทางเชื่อมต่อไปยังห้างสรรพสินค้าใต้ดิน รวมทั้งร้านของซื้อของที่ระลึก ที่เห็นแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา! … พบกับร้านของฝากจากญี่ปุ่นน่าซื้อได้ที่นี่ ทั้ง Tokyo Banana, ขนมเค้กไข่ Casella, ขนม Tokyo Cheese ที่กำลังเป็นที่พูดถึง และร้านค้ารวมทั้งร้านอาหารมากมาย ตั้งแต่ร้านขายสินค้าโปเกม่อน ไปจนถึงมูมิน และสินค้าการ์ตูนญี่ปุ่นอีกมากมาย ที่หลาย ๆ คนไปแล้วติดใจ แค่เดินเล่นใน Tokyo Station ก็ฟินแล้ว ได้ของครบเกือบทุกอย่าง
44. สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) – พิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีโตเกียว
ใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียวช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงปลายเดือน และในโตเกียว ก็มีพิกัด สถานที่ท่องเที่ยว จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีสวย ๆ ทั้งใบเมเปิ้ลสีแดง และใบไม้สีเหลือง สีส้ม ที่สวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) สวนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากดาวน์ทาวแหล่งช้อปปิ้งย่านชินจูกุ ทำให้หลาย ๆ ท่านตัดสินใจหาโรงแรมที่พักย่านชินจูกุ เพื่อเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในโตเกียว เพราะว่าเที่ยวในเมืองก็ฟินได้! … และนอกจากฤดูใบไม้ร่วงแล้ว สวนชินจูกุเกียวเอ็นยังเป็นจุดชมดอกซากุระในโตเกียว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปลายเดือนมีนาคม-ต้นเมษายนในจังหวัดโตเกียวเช่นกัน
45. หมู่บ้านชิราคาวะโกะ – ชมงานประดับไฟญี่ปุ่น ที่หมู่บ้านมรดกโลก เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาว ก็คงจะขาด “ชิราคาวาโกะ” ในจังหวัดกิฟุไปไม่ได้เป็นอันขาด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หมู่บ้านมรดกโลก UNESCO แห่งนี้ เป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวในทุกฤดู ทั้งฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง แต่ไฮไลท์ที่คนนิยมไปชมมากที่สุดจะอยู่ในฤดูหนาว ซึ่งมีการจัดงานประดับไฟ “Shirakawago light-up” กับบรรยากาศบ้านญี่ปุ่นสมัยโบราณที่มีชื่อเสียงในหลังคาทรงสามเหลี่ยมแบบ “กัสโช” ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเยี่ยมชม โดยสาเหตุที่ทำให้ต้องทำบ้านที่มีหลังคาสูงชันแบบนี้ คือหมู่บ้านที่ชิราคาวาโกะค่อนข้างมีหิมะสูงมากนั่นเอง
วิธีเดินทางไป ชิราคาวะโกะ (Shirakawago) จากโตเกียว
วิธีที่ 1 ขึ้นรถบัส
จากสนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ สามารถเดินทางไปสถานีรถบัส Shinjuku High-way Bus เพื่อนั่งรถไฟยัง Takayama แล้วต่อรถไปยัง Shirakawa-go
วิธีที่ 2 นั่งรถไฟชินคันเซ็น
ขึ้นชินคันเซ็น จากสถานี Tokyo Station ขบวน Hokuriku Shinkansen เพื่อเดินทางไปยังสถานี Toyama หรือ Kanazawa แล้วต่อรถบัสไป Shirakawa-go
Editorial credit: gu3ree / Shutterstock.com
46.วัดน้ำใส เกียวโต – วัดคิโยมิสุเดระ จุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในเกียวโต
จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังอีกแห่งในเกียวโตคือที่ ‘วัดคิโยมิสุเดระ’ (Kiyomizudera Temple : 清水寺) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘วัดน้ำใส’ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงด้านจุดชมวิวพาโนราม่าที่สามารถเห็นเมืองเกียวโตได้อย่างงดงาม และเจดีย์ Koyasu สามชั้น รวมถึงน้ำพุบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์เป็นยาของ Otawa Spring
47. แม่น้ำโฮซูกาวะ – ล่องเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี หลากสีสัน บนแม่น้ำแห่งเกียวโต
ล่องเรือในแม่น้ำโฮซูกาวะ (Hozugawa River Boat) จังหวัดเกียวโต คุณสามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ทางออนไลน์ เที่ยวญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายน สัมผัสประสบการณ์ชมความงามของใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสันผ่านการล่องเรือใ ชมความงามของทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงามตรึงใจ สุดแสนโรแมนติก
48. โยโกฮาม่า – ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ
เมื่อเมืองใหญ่ปะทะกับธรรมชาติอย่างลงตัว โยโกฮาม่าจึงกลายเป็นที่เที่ยวญี่ปุ่นที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังสวยงาม ในวันที่ฟ้าใส สามารถแวะจอดรถถ่ายฮิป ๆ เก๋ ๆ ริมทางได้อย่างงดงามเพอร์เฟ็ก เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวนิยมขับรถเที่ยวแบบโรดทริปไปถ่ายรูปเลยหละ!
สถานที่: เมืองโยโกฮาม่า, จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น
ที่เที่ยวยอดนิยมในจังหวัดคานากาว่า
- พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า – ชิมราเมงเลิศรสที่นี่! เป็นแหล่งรวมร้านราเม็งยอดฮิตของญี่ปุ่น
- โกดังอิฐแดง – ที่เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาว ยอดนิยม
- ทะเลสาบอาชิ (芦ノ湖)
- พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (藤子・F・不二雄ミュージアム)
- พระใหญ่แห่งคามาคุระ (鎌倉大仏殿高徳院)
- สวนสนุกคอสโม่เวิลด์ โยโกฮาม่า (よこはまコスモワールド)
- โยโกฮาม่า ไชน่าทาวน์ (横浜中華街)
49. ถนน อิโรฮาซากะ – จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุดท่ามกลางแสงแดดและหุบเขา
อิโรฮาซากะ (Irohazaka – いろは坂) เป็นถนนสายคู่ที่มีเส้นทางคดเคี้ยวเชื่อมต่อสูงต่ำเป็นเส้นทางใกล้กับใจกลางเมืองนิกโก้ (Nikko) จังหวัดที่มีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามและโรแมนติกที่สุดในการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น ถนนสายนี้เชื่อมต่อเมืองนิกโกกับบริเวณโอคุนิกโก บางท่านอาจเลือกขี่จักรยานชมวิวที่หุบเขาแห่งนี้ และยังมีมอเตอร์ไซค์ รวมถึงรถยนต์ท่องเที่ยวให้เช่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวคือทุกฤดู แต่จะงดงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือน ถัดจากถนนอิโรซากะแล้ว คุณสามารถเจอทะเลสาบชูเซ็นจิ ซึ่งเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว
50. สวนดอกไม้ Nabana no Sato – ที่สุดแห่งสวนดอกไม้ของญี่ปุ่น
หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นเคยกับภาพ Winter Illumination งานประดับไฟสวยงาม ที่มีอุโมงค์ไฟสีเหลืองด้านบน และตกแต่งแซมด้วยไฟสีน้ำเงินผสมดูคล้ายสีม่วงด้านล่าง ที่นี่คือสวนดอกไม้ Nabana no Sato (นาบานะ โนะ ซาโตะ) แห่งเมืองนาโกย่า เมืองใหญ่ของจังหวัดไอจิ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยมมากมายรวมอยู่ในจังหวัดนี้ เช่น สวนสนุกเลโก้ Legoland Japan Resort, Yamasaki River, ท่าเรือนาโกยาและพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท่าเรือนาโกยา เป็นต้น
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางในการท่องเที่ยวทุกฤดูสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก และ 50 ที่เที่ยวญี่ปุ่น ที่ TravelDiDi.com รวบรวมมานี้ ก็รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นเปิดใหม่ล่าสุด และยอดนิยม เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเที่ยวญี่ปุ่นเดือนเมษายน (ฤดูใบไม้ผลิ) เที่ยวญี่ปุ่นเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง) และ เที่ยวญี่ปุ่นฤดูหนาวเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นเพื่อเล่นหิมะ เล่นสกี และกิจกรรม-กีฬา ฤดูหนาวมากมาย รวมทั้งตกปลาในทะเลสาบน้ำแข็ง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับขับรถ เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองแบบโรดทริป และนั่งรถไฟ JR Pass ชมธรรมชาติและทัศนียภาพอันสวยงามในทุกทุกที่ที่ไป