วิธีหาชุดแต่งงานในแบบฉบับ WeddingReview
การหาชุดแต่งงาน จากประสบการณ์ของทีมงาน WeddingReview เราขอแนะนำว่า ควรเตรียมตัวล่วงหน้า 3 – 4 เดือน เพราะร้านเช่าชุดแต่งงานบางร้านอาจเป็นร้านยอดฮิต เมื่อคุณไปถึงร้านและลองชุด คุณอาจพบว่าชุดที่ชอบโดนคนจองตัดหน้าไปแล้วก็ได้ เพราะส่วนใหญ่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมักใช้ฤกษ์แต่งงานคล้ายกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ สำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ต้องการตัด-เช่า หรือ ตัดชุดแต่งงานขึ้นมาใหม่ ก็อาจใช้เวลาในการลองชุด แก้ไขชุด ปรับปรุงชุด และ วาดชุดแต่งงานให้เกิดขึ้นตามที่คุณชอบ ฉะนั้น เรื่องการจองชุดแต่งงานล่วงหน้า เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจและเขียนไว้บน Priority List ที่สำคัญอันดับแรก ๆ เลยค่ะ
ขั้นตอนการค้นหาร้านเช่าชุดแต่งงาน
- ค้นหา IG / Facebook / Website ร้านเช่าชุดเจ้าสาวในอินเทอร์เน็ต – ดูรีวิวต่างๆ – และหาดูชุดที่ชอบ
- หากพบร้านเช่าชุดแต่งงานที่น่าสนใจ ให้จดเบอร์โทร โทรไปถาม และ เขียนข้อมูล จดวันนัดไว้
- ร้านเช่าชุดแต่งงาน บางร้าน ต้องนัดลงคิวล่วงหน้าก่อนเข้าไปดู สาเหตุเพราะลูกค้าอาจจะไปชนในช่วงวันหยุด วันเสาร์-อาทิตย์
- หากได้ร้านที่ถูกใจ ขั้นตอนต่อไป คือ เลือกชุด => ทำสัญญา => วางเงินมัดจำ => นัดวันฟิตติ้ง => โอนเงินจำนวนเต็ม => ฟิตติ้งชุด วัดตัวปรับแก้ชุด => ลองชุด & รับชุด
ราคาเช่าชุดแต่งงาน
ชุดแต่งงาน มีราคาหลากหลายมาก ตั้งแต่ราคา 2,000 บาท สำหรับราคาเช่าชุด ไปจนถึง 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียดชุด ดีเทลการปัก และปัจจัยอื่น ๆ การตัดชุดแต่งงานใหม่อาจจะมีราคาสูงกว่า 50,000 บาท หรือ หลักแสน ก็เป็นไปได้เหมือนกัน เจ้าบ่าวเจ้าสาวสามารถแจ้งกับทางร้านว่ามีงบเท่าไร ชอบสไตล์ไหน ต้องการตัดใหม่ หรือ เช่าชุดที่มีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ร้านเช่าชุดแต่งงานบางร้านก็จะมี PACKAGE & PROMOTION เช่น จองชุดราคา xx,xxx + xx,xxx = จะลดราคาให้ ลูกค้าจ่ายน้อยลง แต่ต้องทำสัญญาก่อนหมดเขตโปรโมชั่น
ประสบการณ์ เช่า ชุดเจ้าบ่าว ของทีมงาน WeddingReview
เนื่องด้วย แฟนของทีมงานไม่ว่าง ไม่มีเวลาค่ะ และ เป็นคนที่ใส่อะไรก็ได้ไม่คิดมาก บางชุดก็เช่าเอาแถวที่ทำงาน บางชุดก็ตัดเอาร้านแถวที่ทำงาน เลือกที่สะดวกและราคาประหยัด เอางบไปให้เจ้าสาว
ชุดแต่งงาน แบบไหนสวย?
- ในงานเลี้ยงวิวาห์ สำหรับตัวทีมงาน WeddingReview เอง … เราเน้นชุดที่เหมาะกับตัวเรา ช่วงนั้นเราอวบนิด ก็หาชุดที่เข้ากับตัวเราหน่อย แล้วก็เน้นลูกไม้ที่กระโปรงค่ะ เราไม่ค่อยชอบแบบฟูฟ่อง และโดยส่วนตัวคิดว่าถ้ากระโปรงมีลูกไม้ จะดูฟรุ้งฟริ้ง และ ทำให้ถ่ายรูปออกมาสวย … ซึ่งแล้วแต่สไตล์ของแต่ละคน ว่าอยากถ่ายรูปออกมาในลุ้คอะไร เช่น เจ้าสาวหน้าหวาน ๆ ชุดหวาน ๆ, สไตล์เรียบหรู, เปรี้ยว ๆ เซ็กซี่ เป็นต้น .. ทั้งนี้ แล้วแต่คนชอบ ควรเลือกชุดแต่งงานที่ตัวเองชอบและมั่นใจที่สุด จะทำให้เรารู้สึกมีความสุขที่สุดในวันงาน
- เรื่องทรงชุด เราเชื่อว่าเจ้าสาวหลาย ๆ คนคงเคยอ่านบทความประเภท หุ่นแบบนี้เหมาะกับชุดทรงไหน? มากันบ้างใช่มั้ยคะ แต่สาว ๆ บางคนอาจจะไม่เห็นภาพจริงเท่ากับได้ลองชุดเอง ดังนั้น มีชุดในฝันแบบไหนก็ควรลองให้หมด (ถ้าร้านให้ลอง) แล้วเราจะรู้เองว่าใส่แล้วเรามั่นใจไหม มั่นใจแบบไหนก็เอาแบบนั้นเลย แต่ถ้าถามว่าชุดทรงไหนเหมาะกับหุ่นสาวๆทุกรูปแบบ ก็คงเป็นชุดทรง A ค่ะ แต่ปีหลังๆมานี้ ชุดแบบเมอเมด หางปลา ก็เป็นตัวเลือกยอดฮิตของว่าที่เจ้าสาวเหมือนกัน ใครอยากใส่ชุดหางปลาก็ต้องฟิตหน้าท้องกันนิดนึงนะคะ และใครที่ชอบชุดเจ้าสาวแบบชุดแขนยาว ก็คงต้องฟิตแอนด์เฟิร์ม กระชับต้นแขนหน่อย สวมแล้วจะได้ดูสมส่วนเพียวสวย ถ่ายรูปแล้วไม่ดูตัน
- สีชุดไทย : เราชอบสีกลีบบัวค่ะ … เราว่าเรื่องสีชุด ต้องดูสีที่ขลับกับผิวตัวเจ้าสาวค่ะ บางทีจะดูเฉพาะ THEME สีไม่ได้ อย่างเรา ใส่สีเหลืองไม่ขึ้นค่ะ จะดูซีด
เลือกชุดแต่งงานไม่ถูก ให้ใครช่วยเลือกดี?
- สำหรับตัวเราเอง เรานึกถึง “แม่” ค่ะ … เพราะว่าคนนี้เป็นคนที่เห็นเรามาตั้งแต่เด็ก คำแนะนำจากแม่บางทีก็มีประโยชน์ค่ะ
- “เพื่อนสนิท” ค่ะ คนที่พูดตรง คนที่เราสบายใจที่สุด คนที่ไว้ใจได้ที่สุด คนที่จริงใจกับเราที่สุด ให้คุยกับคนนั้น
- เจ้าของร้าน & พนักงานของร้านค่ะ ช่างที่ร้านอยู่กับชุดวิวาห์ทุกวัน เห็นคนใส่มาเยอะ และมีความถนัดงานทำชุด อาจมีคำแนะนำดีดีให้เวลาเลือกชุดค่ะ
- “เชื่อตัวเราเอง” ค่ะ … เพราะคนที่ใส่ชุดคือตัวเรา ถึงเราจะได้คำแนะนำ ติ-ชม จากคนอื่นๆ แต่สุดท้ายแล้ว อยากแนะนำให้ใส่ชุดที่ใส่แล้วคิดว่ามั่นใจที่สุดค่ะ แล้ววันงานเราจะมีความสุข หลังจบงานเราก็จะมีความสุขที่สุด สบายใจที่สุดค่ะ
Follow ติดตามแฟนเพจ Facebook “คู่มือจัดงานแต่งงาน by OPONG“
บทความที่คุณอาจสนใจ