การจัดงงานแต่งาน มักมีขั้นตอนและพิธีที่เป็นมนต์เสน่ห์ของแต่ละภาพแต่ละพื้นที่ อย่างการแต่งงานแบบอีสาน ถือเป็นงานแต่งงานที่เฉพาะดั้งเดิมและสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งชาวอีสานเรียกขานประเพณีแต่งงานนี้ว่า ‘ประเพณีกินดอง’ โดยมี 7 ขั้นตอน จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง WeddingReview นำมาฝากที่นี่แล้ว ไปดูกันค่ะ
7 ขั้นตอน “ประเพณีกินดอง” การแต่งงานแบบอีสาน
1. ‘การโอม’ หรือการสู่ขอ
การสู่ขอ หรือการโอม (บางพื้นที่เรียกว่า การขอเมีย) ที่ถูกต้องตามประเพณีของชาวอีสาน คือ การที่ฝ่ายชายต้องพาผู้ใหญ่มาเป็นเถ้าแก่สู่ขอฝ่ายหญิง โดยสิ่งที่ต้องเตรียม ได้แก่ ขันใส่หมากจีบพลูพัน พร้อมด้วยเงินอีก 3 บาท (ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคล) ซึ่งเรียกกันว่า ‘เงินไขปาก’ จากนั้นพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็จะหยิบหมากพลูในขันมาเคี้ยว 2 คำพอเป็นพิธี ก่อนที่จะพูดคุยตกลงเรื่องสินสอดกันต่อไปค่ะ
2. ‘ค่าดอง’ หรือค่าสินสอด
หลังจากที่ทำการสู่ขอและตกลงเรื่องฤกษ์งามยามดีกันเรียบร้อย ต่อมาพูดคุยกันเรื่องสินสอดทองหมั้น ซึ่งในภาษาอีสานเรียกกันว่า ‘ค่าดอง’ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเถ้าแก่ผู้หญิงทั้งสองฝ่ายที่จะตกลงกัน ระหว่างรอวันหมั้นหรือวันแต่ง ฝ่ายชายก็มีหน้าที่ตระเตรียมเงินทองมาเป็นค่าดอง ส่วนฝ่ายหญิงก็มีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ ที่นอนหมอนมุ้งและของรับไหว้ต่าง ๆ ค่ะ
3. วันมื้อเต้า – วันมื้อโฮม
คือ ประเพณีของชาวอีสานก่อนถึงวันแต่งงานจะต้องมีการจัดงานเลี้ยงให้แก่ญาติพี่น้อง เพื่อนหรือคนในหมู่บ้านที่เอาข้าวของมาให้หรือมาลงแรงช่วยกันจัดเตรียมงานแต่งงานที่บ้านของฝ่ายเจ้าสาว วันมื้อเต้าจึงเป็นวันที่ทุกฝ่ายร่วมกันเตรียมสิ่งของ
ส่วนวันก่อนวันแต่งงานจริง ๆ เรียกว่า วันมื้อโฮม หรือบางพื้น เรียกว่า มื้อสุกดิบ จะมีการนิมนต์พระสงฆ์มาร่วมสวดมนต์ ทั้งบ่าวสาว ครอบครัวและเพื่อนพ้องจะมาร่วมกันฟังเทศน์ฟังธรรมค่ะ
4. การแห่ขันหมาก ในงานแต่งงาน แบบอีสาน
เมื่อถึงวันแต่งงาน
- ฝ่ายเจ้าบ่าวจะเคลื่อนขบวนขันหมากไปที่บ้านของฝ่ายหญิง นำขบวนโดย ‘เจ้าโคตร’ ซึ่งควรจะเป็นผู้ที่อาวุโสที่สุดในครอบครัวของฝ่ายชาย
- ตามด้วยเจ้าบ่าว พาขวัญ (พานบายศรี) ซึ่งต้องถือโดยหญิงสาวที่บริสุทธิ์เท่านั้น ถัดมาจึงค่อยเป็นขันเหล้า ขันหมากพลู และญาติพี่น้องฝ่ายเจ้าบ่าวตามลำดับ
- ระหว่างเคลื่อนขบวนก็จะมีการบรรเลงเพลงเพื่อสร้างความสนุกสนาน
- เมื่อถึงบ้านเจ้าสาวแล้ว เจ้าโคตรและเจ้าบ่าวจะต้องทำการล้างเท้าด้วยหินลับมีดที่ปูด้วยใบตอง ถือว่าเป็นการแสดงความเคารพค่ะ
เมื่อเข้าไปในบ้านของฝ่ายหญิงได้แล้วก็ถึงขั้นตอนที่ฝ่ายชายจะทำการมอบสินสอด โดย
- ญาติทางฝ่ายหญิงจะเป็นผู้นับและโปรยเมล็ดข้าวเปลือก ถั่ว งาลงบนสินสอด ซึ่งถือว่าเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีความเป็นสิริมงคล เงินทองงอกเงยเหมือนเม็ดพันธุ์
- เมื่อเสร็จสิ้นญาติฝ่ายเจ้าสาวจะพาเจ้าบ่าวไปที่ห้องหอ
- ขณะเดียวกันญาติของฝ่ายเจ้าบ่าวที่เป็นผู้หญิงก็จะพาเจ้าสาวไปที่ห้องเพื่อรอทำพิธีสู่ขวัญ
5. พิธีสู่ขวัญ ผูกข้อมือ งานแต่งอีสาน
สำหรับพิธีสู่ขวัญนั้นเป็นพิธีที่จะต้องกระทำโดยหมอสูตรหรือหมอพราหมณ์ ซึ่งจะทำการสวดอวยพรให้แก่บ่าวสาว
- บ่าวสาวจะต้องนั่งเคียงคู่กัน โดยเจ้าสาวจะนั่งทางฝั่งซ้ายของเจ้าบ่าว
- เมื่อสวดเรียบร้อยหมอสูตรหรือหมอพราหมณ์จะนำไข่ต้มบนยอดพาขวัญ (บายศรี) มาแบ่งครึ่งเพื่อให้บ่าวสาวกินกันคนละครึ่งฟอง เรียกว่า ‘ไข่ท้าว’ กับ ‘ไข่นาง’
- จากนั้นก็ผูกข้อไม้ข้อมือกัน ซึ่งผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานทุกคนจะต้องผูกข้อมือให้บ่าวสาว พร้อมกับกล่าวคำอวยพรไปด้วยจึงจะถือว่าเสร็จสิ้นพิธีสู่ขวัญค่ะ
6. การสมา หรือขอขมาญาติผู้ใหญ่ ในงานแต่ง
นอกจากการกราบไหว้ ต้องเตรียมสิ่งของที่จะมอบให้ คือ ผ้าโสร่ง 1 ผืน เสื้อผู้ชาย 1 ตัว ให้แก่พ่อของทั้งสองฝ่าย และผ้าซิ่น 1 ผืน พร้อมด้วยเสื้อผู้หญิงอีกหนึ่งตัวให้แก่แม่ของทั้งสองฝ่าย จากนั้นผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ก็จะให้พรและอบรมสั่งสอนในเรื่องของการครองเรือนต่อไป
7. พิธีส่งตัวเข้าหอ
พิธีส่งตัวนั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากพิธีแต่งงานของภาคอื่น ๆ มีทำพิธีนอนเอาฤกษ์ และจูงมือคู่บ่าวสาวเข้ามาในห้องหอที่จัดเตรียมไว้ เมื่อให้โอวาทแก่คู่บ่าวสาว
เมื่อทำตามทุกขั้นตอนเรียบร้อยก็ถือว่าเสร็จสิ้นพิธีแต่งงานตามแบบฉบับของชาวอีสานแล้วค่ะ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- คอร์สเรียน Wedding Review คู่มือจัดงานแต่งงาน
- เตรียมตัวแต่งงาน
- พิธีแต่งงาน
- เพลงงานแต่งงาน
- สถานที่แต่งงาน
- ร้านค้าแต่งงาน