ทริปฮันนีมูน เน้นกิน ที่ฮ่องกง ชิมห่าน 3 ร้าน ปู Spicy Crab ติ่มซำ

วางแผนไปเที่ยวฮ่องกงกันอยู่รึเปล่าคะ?

สำหรับรีวิวนี้ WeddingReview.net มาพูดถึงเรื่อง ฮันนีมูนกันบ้าง
แต่เป็นการ “ฮันนีมูน แบบกินแหลก” ที่ฮ่องกง จะเรียกว่าฮันนีมูนก็พูดได้ไม่เต็มปากซะทีเดียว
ดังนั้น สำหรับทริปหวาน ๆ แบบฮันนีมูนจริง ๆ เดี๋ยวเราจะมีมาให้อ่านในบทความหน้า ซึ่งเป็นทริป ฮันนีมูน ยุโรป โรแมนติก ของจริง แต่ทริปนี้ รีวิวเที่ยวฮ่องกง แบบเน้นกิน มาฝากก่อนนะจ้ะ ใครกำลังจะเที่ยวฮ่องกง อ่านด่วน

คำเตือน ฮันนีมูนนี้ เน้นกิน อย่างเดียวค่ะ

รีวิว กินห่านย่าง 3 ร้าน Po Kee , Yung Kee และ Yat Lok
ติ่มซำร้าน Lin Heung Tea House , One Dim Sum , Crystal Jade
ปูร้าน Under the Bridge Spicy Crab โจ๊กฮ่องกง และอีกมากมาย

 

วิธีเดินทางไปฮ่องกง

โอ & พี่ป้อง ดูตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมจากเว็บไซต์ Expedia ซึ่งตอนเราจอง เราจองแบบกระทันหัน จองวันศุกร์ ไปวันอังคาร กลับพฤหัสบดี ราคาตั๋วก็จะค่อนข้างราคาสูงกว่าปกติ แต่ถ้าอยากได้ตั๋ว LOW FARES อันนี้ แนะนำให้จองล่วงหน้า 2-3 เดือน หรือ ติดตามดูโปรโมชั่นต่าง ๆ เพราะว่ามีสายการบินมากมาย บินตรง กรุงเทพ – ฮ่องกง เพราะฉะนั้นไป-กลับ สบายมากเลย

จองแบบ Package ตั๋วเครื่องบิน & โรงแรม

ปีที่แล้ว ปี 2559 เราเดินทางปลายเดือนมิถุนายน จองตั๋ว Cathay Pacific พร้อมโรงแรม พักที่ The Mira Hong Kong Hotel จำนวน 2 คืน อยู่ในย่าน Tsim Sha Tsui (ฝั่ง Kowloon) ตอนนั้นสอบถามจากเพื่อนคนไทยที่เกิดในฮ่องกง แนะนำว่าพักย่านนี้แหละดีที่สุด ใกล้ที่ช้อป ราคาก็โอเค รวมแล้ว ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน รวมค่าเที่ยวบิน + โรงแรม เป็น 24,983.82 บาท (ราคาสำหรับ 2 คน) ซึ่งถือว่าราคาสูงอยู่ เพราะว่าถ้าจองตั๋วล่วงหน้า หรือ จองโรงแรมล่วงหน้า ก็มักจะได้เรทที่ราคาถูกกว่านี้อีก

ทริปหน้า เราก็วางแผนไปเที่ยวฮ่องกงอีกรอบ แต่เลือกจองโปร ของการบินไทย Super Save Plus ได้ตั๋วไป-กลับ ฮ่องกงสำหรับสองคน ในราคา 13,890 บาท มาแทน (เฉลี่ยประมาณ 6,945/ท่าน) และ จองโรงแรมที่ราคาถูกลง แต่ใกล้ MTR มาก ๆ อยู่ในฝั่งฮ่องกง ราคาคืนละประมาณ 3,000 บาท โรงแรมนี้สะดวกต่อการเดินทางไปร้านอาหารที่เราอยากไปมากกว่าโรงแรมเดิม (เน้นกิน)

 

รีวิวโรงแรม The Mira Hongkong Hotel

ตอนแรกเราจองห้อง Studio แต่ก็อัพเกรด ไปนอนห้อง City จ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อย

 

ข้อดีของโรงแรม The Mira Hongkong Hotel

– ห้องพักสะอาด แต่ก็แคบตามแบบฉบับฮ่องกง
– มี Pocket WIFI ให้จ้า เอาไปใช้ข้างนอกได้ สบายเลย
– ใกล้ที่ช้อป มีร้านมินิมาร์ทใกล้ ๆ 7-11 นั่นเอง ครึกครื้น ทั้งคืน
– พนักงานพูดอังกฤษได้ และช่วยเหลือดีมาก ๆ ตอนแรกทีวีเล่นเน็ตไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็มาช่วยดูแล ดูแลจนแบบ เราเบื่อแล้ว ไม่อยากดูแล้ว แค่อยากลองเล่นเฉย ๆ 555 แต่พนักงานก็ช่วยแล้วช่วยอีก ช่วยจนสำเร็จ
– จากสถานีเกาลูน มีรถ Shuttle Bus (สาย K4) ขับมาจอดหน้าโรงแรม สะดวกมาก ดีสำหรับคนมีกระเป๋าลาก และผู้หญิงที่ชอบขนของมาแต่งตัว มีเครื่องสำอางค์หนัก ๆ
– ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำฟินมาก หรี่ไฟ เปิดเพลง ฯลฯ ได้ นอนแช่น้ำสบายดี แต่ถ้าใครไม่ชอบเรื่องนี้ก็ข้ามไป
– เตียงนุ่ม หลับสบายมาก (แฟนเราทำงานหนักตลอดทุกวัน พอไปเที่ยวก็ขอไปเที่ยวแบบสบาย ๆ ได้พักผ่อนบ้าง เรื่องโรงแรมก็เลยเลือกที่ให้ได้ผ่อนคลายหน่อย)

 

ข้อเสีย

– ก็ถือว่าใกล้ MTR แต่ก็เดินสักระยะอยู่ ถ้าซื้อของเยอะก็เดินเหนื่อยหน่อย
– ก็ไม่ถือว่าเสียนะ เพราะเป็น Policy ของโรงแรม คือ เก็บเงินมัดจำ 1,000 HKD/คืน แล้วจะคืนให้หลังเช็กเอาท์ จะรูดบัตรเอาก็ได้ หรือ มัดจำด้วยเงินสดก็ได้
– ราคาก็พอสมควร

 

การเดินทางในฮ่องกง

จากสนามบินเข้ามาในเมือง สามารถเดินทางได้โดยใช้ Airport Express หรือ นั่ง Airport Bus แต่ถ้าหากนั่ง Airport Bus มันจะมีเวลาในการออกเดินทาง ซึ่งต้องกะเวลาพอสมควร แต่ถ้าใช้ AE ก็มีเวลาออกเดินทางเหมือนกัน คือ ทุก 24 นาที

เราเลือกซื้อบัตร Airport Express สำหรับเดินทางไป-กลับสนามบิน และใช้บัตร Octopus ซึ่งเป็นบัตรเติมเงิน ในการนั่ง MTR ในฮ่องกง ทั้งสองบัตรนี้ ซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ Airport Express ที่สนามบิน ขากลับก็คืนบัตร เอาเงินในบัตรคืน

แต่จริง ๆ แล้ว บางกรณี ถ้าหากศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวที่จะไปมาดีแล้ว ก็ซื้อ MTR Tourist Day Pass (ดูที่เที่ยวที่อยู่ในเส้นทาง) ก็อาจจะคุ้มกว่าใช้ Octopus ค่ะ ตอนเราไป เราซื้อ Octopus เพื่อตัดปัญหา เพราะว่าเรากับแฟน ก็ยังไม่แน่ใจชีวิต ว่าแต่ละวันจะไปที่ไหนบ้าง ของเราสรุปแล้ว ไปกินมากกว่าไปเที่ยวค่ะ ลงสถานีแล้วก็เดิน ๆ ไปไม่กี่สถานี บัตร Octopus ก็มีข้อดีตรงที่ เป็นบัตรแบบเติมเงิน ใช้ได้กับทั้งรถไฟ รถใต้ดิน รถบัส เรือ และใช้ซื้อของในร้านค้าสะดวกซื้อบางร้านได้ด้วยค่ะ สะดวกมาก ไม่ต้องกำเศษเหรียญ

การใช้ อินเทอเน็ตในฮ่องกง

ด้วยโรงแรมที่เราพัก มี Pocket WIFI ให้ใช้ฟรี ซึ่งเราก็ทราบตอนถึงห้องพักในโรงแรมแล้วนะ เราก็เลยซื้อ SIM CARD ที่สนามบินติดตัวไปด้วย ถามว่าซิมอินเทอเน็ตจำเป็นมั้ย ถ้าเดินทางไม่ถูกไปครั้งแรกก็จำเป็นนะ จะได้ใช้ดู GPS & วิธีเดินทาง เปิด GOOGLE MAP ในกรณีที่หลงทาง หาตึกไม่เจอ และก็เพราะว่าบางพื้นที่ ก็ไม่มีสัญญาณ WIFI เข้าถึงด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นต่อให้มี Pocket WIFI มันก็ใช้งานในบางพื้นที่ไม่ได้

การซื้อซิมที่สนามบิน เราเจอร้านขายซิมก็เข้าไปซื้อเลยจ้า มีให้เลือกไม่กี่แบบหรอก ซึ่งก็ไม่ตรงตามในรีวิวที่อ่านมา เพราะว่ามันน่าจะหมดโปรโมชั่นไปแล้ว ก็เลือกที่คุ้มและเหมาะกับเราที่สุด ในร้านก็จะมีพนักงานซึ่งเป็นงานมาก คอยจิ้มเอาซิมไอโฟนเก่าออกจากเครื่องและใส่ซิมฮ่องกงให้ ก็มีชาวต่างชาติต่อแถวเข้าไปซื้อกันไม่ค่อยมีคิวว่างซักเท่าไร

 

สรุป โปรแกรมทัวร์ของเรา

วันที่ 1 – กิน บะหมี่ขาห่าน ร้าน Po Kee – ติ่มซำ ร้าน One Dim Sum – ของหวาน Honeymoon Dessert – เดินเล่น – ดู Symphony of Light
วันที่ 2 – โจ๊ก Hung Lee – ไหว้พระใหญ่ – กิน ห่าน & ข้าวผัด ร้าน Yung Kee – ไป Lin Heung Tea House แต่ติ่มซำหมด!! – ช้อปที่ Time Square – กินปูร้าน Under the Bridge – นั่งเรือ Ferry เล่นคาซิโน Macau – กลับฝั่ง Kowloon ตอนตี 4 ตี 5
วันที่ 3 – ซื้อ Sun Hing ใส่กล่อง – กินห่าน หมูแดง ร้าน Yat Lok – IFC Mall – สนามบิน – ติ่มซำ Crystal Jade สนามบิน – กลับกรุงเทพฯ

 

ฮ่องกง มาเก๊า เวลาเราเห็นเพื่อน ๆ ไปเที่ยว ที่ฮิตกัน ก็มี กินทาร์ตไข่ ไหว้พระ ขอพร วัดพระใหญ่ วัดกังหัน และ “ห่าน” ฯลฯ

ทริปนี้ เราอ่านรีวิวใน Pantip และตามเว็บต่าง ๆ ตั้งใจเลยว่า จะไปกินห่านให้ครบ 3 ร้าน !!! ที่มันฮิต ๆ กันเนี่ย และจะซื้อกลับมาฝากแม่ที่ไทยด้วย

 

วันแรก กรุงเทพ – ฮ่องกง

เช็คอินโรงแรม, กินบะหมี่ขาห่าน ร้าน Po Kee, ต่อด้วยติ่มซำ ร้าน One Dim Sum เดินเล่น ไปทาน Honeymoon Dessert (จำชื่อห้างไม่ได้) และเดินทางไปดูโชว์ Symphony of Light

06.40 น. เดินทางออกจากกรุงเทพ สุวรรณภูมิ ถึงฮ่องกงเวลา 10.25 เวลาท้องถิ่น ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที กับ Cathay Pacific เลือกทานบะหมี่บนเครื่อง เค็ม ๆ แต่ก็กินได้ ส่วนแฟนเราเลือกอีกเมนู ฮีบอกว่าไม่ค่อยอร่อย บะหมี่อร่อยกว่า

ตรวจคนเข้าเมือง รอรับกระเป๋า เสร็จแล้วออกไปซื้อบัตร Airport Express , Octopus และ SIM สำหรับใช้อินเตอร์เน็ต แล้วก็นั่ง Airport Express เข้าเมือง ต่อรถ Shuttle Bus ไปเช็คอินโรงแรม The Mira เช็คอินเก็บของเสร็จ ก็เอา Pocket WIFI ของโรงแรมมาใช้ข้างนอก แล้วเริ่มเดินทางไปร้าน Po Kee กันเลย

บะหมี่ขาห่านย่าง ร้าน Po Kee

ร้านนี้ ก็ตามรีวิวของพี่แป๋วชวนชิม ใน Pantip ไปค่ะ ว่ากันว่า ปี 57 ร้าน Po Kee (โป เก่) ได้รับเกียรติจากมิชลินในระดับ BIB (ยังไม่ติดดาว แต่ยกให้เป็นร้านที่อร่อยและราคาไม่แพง) ตอนปี 60 นี้ ก็ไม่รู้จะไประดับไหนนะ เสาะหาข้อมูลมาว่าเขาย่างห่านแค่วันละ 5 ตัว เราเลยต้องรีบไป เพราะอยากกินขาห่าน ตามพี่แป๋ว จริม ๆ มื้อแรกจัดไปค่ะ บะหมี่ขาห่าน

 

ที่อยู่:
425 Queen’s Road West, Western District, Hong Kong
เวลาทำการ 11:30 – 22:30 ร้านปิดวันอาทิตย์
MTR – ลงสถานี HKU ใช้ทางออก exit 1 ออกมาจะเจอถนน Queen’s อยู่ตรงหน้า ให้เดินข้ามฝั่งไปแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไม่ถึง 1 นาที ร้านจะอยู่ขวามือ ฝั่งตรงข้ามของร้านจะมีตึกตลาดสดใหญ่ ๆ

สำหรับพิกัดที่อยู่นี้ ต้องขอบคุณ พี่แป๋ว Pantip ค่ะ

เราถามพนักงานที่โรงแรม Mira เขาบอกว่า ถ้าสำหรับนักท่องเที่ยวและคนฮ่องกงบางคนแล้ว ก็จะแห่กันไปลิ้มลองห่าน ที่ภัตตาคาร Yung Kee Restaurant ส่วนร้าน Po Kee จะเป็นร้าน Local ของคนในพื้นที่มากกว่า

 

 

เมนูมา ก็เป็นเมนูไม่มีรูปค่ะ เราก็เปิดรูปจากพี่แป๋ว Pantip เลย ตามด้วยสั่งผักคะน้าฮ่องกง & ข้าวหมูแดงกับขาห่านสับ (ของแฟน) มาอีกจาน

 

หมูแดงอร่อยมากกกกกกก นุ่มมมมมม

 

ขาห่านฟินมากกกกกกกกกกกกกกก ชุ่มฉ่ำ เนื้อ ๆ หนัง ๆ เส้นหมี่ไข่ เล็ก ๆ นุ่ม ๆ หนังห่านกรอบและกัดลงไปแล้วก็หอมกลิ่นห่านย่าง ฟินมากกกกก กินห่านสลับกับเส้นและผัก ซดน้ำซุป และตามด้วยโค้ก 555 ซุป แอบเค็มนะจ้ะ ไปฮ่องกง สั่งโค้กเกือบทุกมื้อค่ะ ไม่งั้นมิไหววววว เค็ม

เต็ม 10 ให้ 9.5

 

ร้าน One Dim Sum

ออกจาก Po Kee เราก็ไปกินติ่มซำ ติดมิชลิน 1 ดาว ปี 2012 กันต่อ ร้าน One Dim Sum ในย่านมงก๊ก (Monk Kok) ร้านหาไม่ยาก แต่ก็เดิน ๆ พอสมควร คนเต็มร้านตลอดเวลา เราก็เข้าคิวแป๊บเดียว ทั้งคนจีน ทั้งฝรั่ง เต็มร้าน ร้านนี้ติ่มซำเขาอร่อย จริง ๆ เรากับแฟนก็นะ ไปแล้วถ้าไม่เที่ยว ก็กินให้สุดแล้วกัน
จัดต่อด้วย
– ขนมจีบ
– ฮะเก๋า
– ก๋วยเตี๋ยวหลอด
– ฝั่นโก๋
– ซี่โครงนึ่ง

ก๋วยเตี๋ยวหลอดอร่อยมากกกกกกกกก น้ำราดจะหวาน ๆ หอม ๆ ไม่เปรี้ยวเหมือนที่ไทย ที่สำคัญแป้งอร่อยมากกกก ปกติเราจะกินแต่ไส้ ไม่กินแป้ง มาฮ่องกง แป้งมาเลยจ้า ชอบ 555+ และกุ้งก็เป็นกุ้ง ตัวใหญ่ ๆ กินไป กินไป ซี่โครงนึ่งก็อร่อย หอมมาก นี่ถ้าไม่ติดว่ากินบะหมี่ขาห่านมา คงจะฟินกว่านี้ จบมื้อนี้ พุงเริ่มปริ สามีบอก ไม่เอาแล้ว พอก่อน พอก่อน ขอเดินเหอะ

 

รสชาติ ทุกอย่างเต็ม 10 ให้ 9

ถ้ายังไม่ทานข้าวมา ก็คงสั่งมากกว่านี้ และหมดเรียบทุกเข่ง

จ่ายเงินปุ๊บ ก็เดินจากร้าน เดินย่อย ผ่านตลาดสด สามีลองกินทาร์ตไข่ร้านในตลาด ฮีบอกไม่อร่อย 5555+ แล้วตอนบอกให้ไปกินร้านเด็ด ๆ ฮีก็ไม่ไป ก็เลยชั่งมัน อยากไปกินทาร์ตไข่ที่ Macau แต่ก็ไม่ได้ไปตอนกลางวัน

ร้าน Honey Moon Dessert

วันนั้นเลยไปต่อที่ Honeymoon Dessert สาขานี้อยู่ในห้าง แต่จำชื่อห้างไม่ได้จริม ๆ

การแชร์โต๊ะกับคนแปลกหน้าที่ฮ่องกง เป็นเรื่องปกติ สามีเราอ่านรีวิวมาแล้ว เจออาจุมม่านั่งอยู่มีโต๊ะติดกันว่าง ก็เลยเดินไปแจม นั่งข้าง ๆ

ชอบสาคู มะม่วง อร่อยที่สุด โรย ๆ ด้วยส้มโอ กินแล้วฝดฟื่น

 

 

เต็ม 10 ให้ 8

เสร็จจากจุดนี้ เรายังเดินเล่นกันต่อ ผ่านร้านปลาหมึกทอด ก็ลองซื้อดู เอาให้ครบ เอาให้หมด กลิ่นหอม ๆ แบบของทะเลทอดนะ แฟนเราไม่ชอบ แต่เราชอบ ถ้าได้นั่งเคี้ยวตอนเล่นคอมนะเธอเอ๊ย ฟินแน่ เคี้ยวจนแบบเจ็บฟันอะ 555 ปลาหมึกคนละพันกับบ้านเรา

ระหว่างทาง ก็เจอร้าน ๆ หนึ่งอีก คล้ายๆ ลูกชิ้น กลิ่นคล้ายลูกชิ้นกุ้งบ้านเรา แต่เราก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าคืออะไร เห็นคนทำงานหยุดซื้อกินเยอะมาก เขาซื้อแล้วก็กินตรงนั้น กินเสร็จทิ้งถ้วยในถังขยะ แล้วก็ออกเดินทางกันต่อ ตอนนี้ หนังท้องตึงมากเลย เรากินเท่าที่กินได้ แต่ร้านนี้คนฮ่องกงแวะกินเยอะมาก ก็คงถูกปากคนของเขาและสะดวกสำหรับเขา

ดู Symphony of Light

วันนี้ ที่สุดท้ายที่ตั้งใจจะไปก็คือ ดู Symphony of Light นั่ง MTR ไปสถานี Tsim Sha Tsui
โอ้ มายก้อต ฝนตก โชคดีที่เอาร่มมาค่ะ แต่ด้วยสภาพการเดินมาทั้งวัน แดดร้อนอบอ้าว เหงื่อชุ้ม โอโห สุดยอด ไม่อยากไปต่อแล้ว 5555+ ส่วนสามีเราก็ถึกและบึกบึน เดินไปอย่างไม่ยำเกรงผู้ใด เราก็เดินตามต้อย ๆ ปรากฏว่า Avenue of Stars ปิดปรุงปรุงค่าาาาาาา

ข้าพเจ้าก็ไม่ได้เช็กข่าวมาก่อนเลย สามีเลยเดินเข้า InterContinental Hong Kong นั่งทานข้าวชมวิวได้ค่ะ แต่ต้อง Order ขั้นต่ำ xxx บาท (จำไม่ได้) แต่ด้วยอิ่มสุดขั้วหัวใจแล้ว เลยไม่เอาแล้วค่ะ หลังจบทริปก็แอบเสียใจว่า ถ้าหาข้อมูลดีกว่านี้ จองโรงแรม InterCon ดีกว่า เดินทางง่าย สะดวก มีที่ชมใกล้ ๆ ถ้าใครจะพาผู้สูงอายุ พาพ่อแม่ไป แนะนำอินเตอคอนจ้า

การดู Symphony of Light ในตอนนั้น เดินหลงทางอยู่นานมาก สุดท้ายก็หาจุดชมอีกจุด แถว ๆ Musuem เจอ แต่สภาพโรยรามากแล้วค่ะ เหนื่อย เปียก ไม่อยากดูอะไร การแสดงก็มีขึ้นไม่นาน ได้ยินเสียงบ่นเป็นภาษาไทยว่า แค่นี้เองหรอ 555+ … แต่ถ้าไปถึงฮ่องกงแล้ว ก็ไปดูเถอะค่ะ เนาะ รอบหน้าค่อยว่ากันใหม่ อุตส่าห์ไปถึงที่แล้ว

เราเดินจนเท้าระบมแล้ว แต่สามีเรายังไหว ไม่ยอมนั่งแท็กซี่ ข้าพเจ้าเลยต้องเดินต้อย ๆ ตามนางไป ในที่สุดก็ถึงโรงแรมโดยสวัสดิภาพ ก่อนขึ้นโรงแรมก็แวะร้านสะดวกซื้อ ลองกินขนมแปลก ๆ และนมฮ่องกง หน่อย เป็นอันจบวันแรก

วันที่สอง โจ๊ก Hung Lee – ไหว้พระใหญ่ – กิน ห่าน & ข้าวผัด ร้าน Yung Kee – ไป Lin Heung Tea House (ไปไม่ทัน) – ช้อปที่ Times Square – กินปูร้าน Under the Bridge – นั่งเรือ Ferry เล่นคาซิโน Macau – กลับฝั่ง Kowloon ตอนตี 4 ตี 5

โจ๊ก ร้าน  Hung Lee

วันที่สองตั้งใจจะไปวัดพระใหญ่ค่ะ ตื่นเช้ารีบเดินไปหาโจ๊กทาน ร้าน Hung Lee ร้านโจ๊กร้านนี้ เมื่อวานเดินผ่านค่ะ อยู่ไม่ไกลจากโรงแรม
ไปถึงปุ๊บ สามีก็สวมวิญญาณคนฮ่องกง ไปแชร์โต๊ะจ้า เราสั่งโจ๊กใส่หมู กับ ตับ

 

ตับชิ้นใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
โจ๊กร้อน ๆ ร่วนๆ เริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดี

ก๋วยเตี๋ยวหลอด อร่อยมาก ๆ อีกแล้ว

ส่วนของ สามีเราก็เป็นโจ๊ก ปาท่องโก๋ และก๋วยเตี๋ยวหลอด (อร่อยมากอีกแล้ว) นอกจากนี้ คุณสามี ก็อยากลองดื่มกาแฟของที่ฮ่องกง เลยสั่งกาแฟ ใส่มะนาวมาจ้า กินไปอึกเดียว ชะงัก!!!!!!! นี้มันอารายย อั๊ววะะ ไม่เข้าจายยยย กินต่อไม่ได้ ขอบายแค่คำเดียว

เต็ม 10 ให้ 7.5 เพราะว่าเรา ตื่นเต้นกับห่าน และติ่มซำมากกว่า

 

ไหว้พระใหญ่ ขึ้นกระเช้านองปิง

วันนี้เราต้องทำเวลา เพราะไปไหว้พระใหญ่ต่อ สามีจองตั๋วขึ้นกระเช้า แบบพื้นใส เห็นตัวปลา เห็นน้ำทะเลมาก่อนแล้ว เตือน ๆ เลย ว่าจองไปล่วงหน้าเถอะค่ะ ไม่งั้นก็รอนานมาก พอจะได้ขึ้นกระเช้า ก็จะมีเจ้าหน้าที่หนุ่มตี๋สุดหล่อ มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก (ไว้ขาย) ให้ค่ะ มีคนอินเดียที่นั่งแชร์กระเช้ากับเรา สลับที่นั่ง สลับไปสลับมา จนกระเช้าออก อดถ่าย พี่หนุ่มตี๋ช่างกล่องก็โบกมือบ๊ายบาย แล้วขำ 5555 อันนี้เราก็แอบขำ คือ เขาจะถ่ายรูปกัน แต่สลับที่ไม่หยุดเลย จนไม่ทันละ อดหมด 5555

ไปถึงสถานีกระเช้า ปรากฏว่าฝนตกจ้าา ลมแรงขนาดที่ว่า ร่มปลิว คนก็จะปลิวด้วยเหมือนกัน ต้องวิ่งหนีไปแอบในตึก ร่มกันแดดของ starbuck และร้านรวงต่างๆ ก็ปลิวหมดจ้า ใครไปช่วงที่ฝนตก เตรียมเสื้อกันฝนจากไทยไปก็ดีนะคะ เพราะที่จุด Attraction เหล่านี้ ราคาก็ค่อนข้างสูงค่ะ และภูเขาลูกที่วัดตั้งอยู่นี้ ก็สูงมาก สูงจนเห็นเมฆลอยบนหัวใกล้ มาก ๆ อากาศแปรปรวนบ่อยค่ะ

เรากับแฟนเดินเล่นในวัด ถ่ายรูป แล้วก็ลืมร่มลายโดเรม่อน สีชมพู & สีฟ้า ที่ซื้อจากตลาดรังสิต ไว้ที่นั่น 5555+ ถ้าใครไปแล้วเจอร่มสองอันนี้ยังอยู่ อยากบอกให้รู้ว่า ร่มชั้นเองงง T___T

ไปไหว้พระใหญ่ เรากับแฟนไม่ได้ขึ้นไปถึงด้านบนค่ะ ไหว้ด้านล่าง แฟนเราอธิษฐานขอพรเรื่องงาน ถ้าได้ตามที่บอก รอบหน้าจะกลับมาและจะขึ้นบันไดไปไหว้ถึงด้านบนค่ะ ปรากฏว่าพรเป็นจริงแล้ว ภายใน 6 เดือน เร็วกว่ากำหนดซะอีก เราก็เลยตั้งใจจะไปกันอีกรอบ รอบนี้จะขึ้นไปไหว้ถึงด้านบนค่ะ

ออกจากวัดพระใหญ่ ก็นั่งกระเช้ากลับเหมือนเดิม โอยขนลุกค่ะ เห็นทะเลแล้วเสียว แล้วก็กลับฮ่องกงจ้า ตั้งใจว่าจะต้องไปเก็บร้านติ่มซำ และห่านย่าง ให้ได้อีก ไปร้าน Yung Kee ก่อน แล้วตามด้วย Lin Heung Tea House นั่งไปสถานี Central ค่ะ แล้วก็เริ่มตามหาร้าน Yung Kee อันนี้ก็ต้องอาศัย Google Map ช่วย เพราะมีทั้งถนนใหญ่และตรอกถนนเล็ก ๆ

ไปถึง Yung Kee วันนี้เราเตี๊ยมกันมาแล้ว ว่าเอาแค่ ห่าน ข้าวผัด และ เล็ก ๆ น้อย ๆ พอ

เพราะว่าเราจะไปชิมติ่มซำที่ Lin Heung Tea House กันต่อ

ตามที่เราอ่านรีวิวมา ก็มีเสียงร่ำลือกันมาว่า Yung Kee เคยเป็นร้านห่านย่างที่อร่อย และดังที่สุดในฮ่องกง (ไม่รู้จริงรึป่าว) และห่านย่างที่นี่ อร่อยเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่ช่วงหลังมาก็มีสงครามแย่งมรดก รสชาติก็ดร็อปลง ข้อมูลทั้งหมดนี้ ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะหาข้อมูลกี่เว็บ ทุกที่ก็ต้องพูดถึง Yung Kee เราก็ต้องมาลองให้ได้

 

เนื้อห่านย่าง หนังกรอบ ๆ

อาหารที่สั่ง

– ข้าวผัดร่วนซุย ในตำนาน 1 ที่
– ห่านย่าง 1 จาน
– ซุปใส่ข้าวโพด จำไม่ได้ว่าหูฉลามหรืออะไร (แฟนอยากกิน)
– เกี๊ยวน้ำร้อน ๆ
– ไข่เยี่ยวม้า (อันนี้ไม่ได้ตั้งใจมากิน แต่พนักงานแนะนำว่าดี ก็เลยลอง)

 

ข้าวผัดอร่อยมากกกกกกกกกกกกก ถึงจะจืด ๆ หน่อย แต่มันร่วน มันแห้ง กุ้งตัวใหญ่ ๆ ข้าวถ้วยนี้ กินได้เพลินเลยค่ะ ถ้ามีพริกน้ำปลา ก็คงเด็ด ส่วนห่างย่านที่ตั้งใจมาลอง เรารู้สึกว่า เราชอบบะหมี่ขาห่าน ร้าน Po Kee มากกว่า แล้วก็จานนี้ของ Yung Kee ได้เนื้อที่ติดกระดูกมาเยอะด้วยเลยไม่ค่อยประทับใจ แต่ห่านที่ Yung Kee ก็แร่มาได้น่ากินมาก ๆ

รับเกี๊ยวกุ้งสักคำมั้ยคะ ?

ซุปร้อน ๆ ไหนคุณสามีบอกว่าจะสั่งนิดเดียว

ส่วน ไข่เยี่ยวม้า หนะหรือ อร่อยเหาะจ้า เพราะว่ามันไม่คาว แฟนเราบอกว่าไหนลองหน่อยซิ ไข่เยี่ยวม้าลูกนี้ราคามหัศจรรย์กว่าร้านทั่วไป (แพงกว่า) เอ้อ อร่อยจริง ไม่คาว กลิ่นดีกว่า ไม่ขม จ้า รสชาติดีเลย
จบYung Kee

 

ต่อกันที่ ติ่มซำ Lin Heung Tea House

ได้รับข่าวร้าย

ปรากฏว่า ไปถึงปุ๊บ อากงท่านนึงก็เว่า ๆ ภาษาจีน ฟังไม่ออกจ้า เรากับแฟนเดินขึ้นบันไดไปด้านบน คุยกันแบบงง ๆ กันอยู่ 5 นาที ได้ใจความว่า ร้านปิดแล้วววววว อดเลย ฮืออออ

ฝั่งฮ่องกง MTR Sheung Wan และ Central เป็นย่านที่พื้นที่มันแบบอารมณ์เดียวกับเกาหลีมากค่ะ พื้นที่บางส่วนก็ชัน บางจุด ต้องเดินผ่านขึ้นบันไดชัน ๆ เล็ก ๆ ถนนแคบ ๆ เข้าใจเหตุผลที่เพื่อนแนะนำให้นอนฝั่ง Kowloon เลย เพราะว่าย่านโรงแรมที่พักฝั่งนู้น เดินง่าย เดินคล่อง สะดวกกว่ามากค่ะ

ไม่ให้เสียเวลา เราเลยไปช้อปกันต่อที่ Times Square กันต่อ ในย่าน Causeway Bay เพราะว่าคืนนี้ เราตั้งใจจะไปลอง Spicy Crab กันต่อ ที่ร้าน Under the Bridge Spicy Crab ค่ะ

 

รีวิว Under the Bridge Spicy Crab

ร้านนี้ เป็นภัตตาคาร เป็นเหมือนร้านข้าวต้มไฮโซ ค่ะ เราเห็นคนส่วนใหญ่ที่มาทาน ก็จะมาเป็นครอบครัว หรือ คนทำงาน ที่มีกำลังซื้อหน่อย เพราะว่าราคาอาหารก็เอาการอยู่พอควร เรากับแฟนเข้าไปแบบทัวริสมาก ตั้งใจจะมากินปู และ ผัดหมี่ เห็นโต๊ะข้างๆ สั่งหอย คล้าย ๆ หอยหลอดมาทาน คือ น่ากินมากกกกก แต่ไม่ไหวแล้ว แค่นี้ก็อืดมากแล้ว และราคาก็คงแพงแน่เลย ไว้ก่อนแล้วกันลูกพี่

เหตุผลที่มาทานร้านนี้ คือ เราเคยไปกินปูผัดพริก Chilli Crab ที่โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ฟินมาก คิดว่าน่าจะคล้าย ๆ กัน

กระเทียมคั่ว พริกคั่วด้วย ทั้งเผ็ด ทั้งมัน

ปรากฏว่า พอได้ไปลอง …. โอยยย เผ็ดเหลือหลาย และมีแต่กระเทียม แล้วก็มันน้ำมันมาก ๆ ไม่ฟินตามคาดค่ะ
ราคาก็จะมีหลายเรต และ ปูเป็น กับ ปูตายก็ราคาต่างกันด้วย บางท่านก็บอกว่าถ้าสั่งปูตายก็ระหว่างได้เนื้อแห้ง ๆ บางท่านบอก ถ้าเอาปูตาย เนื้อแห้ง ๆ เอาไปปรุงอาหาร ผลที่จะได้รับคือ แทบไม่เหลืออะไรให้กิน เราจึงสั่งปูเป็น สรุปว่าปูเฉย ๆ งั้น ๆ เลี่ยนมาก ๆ แต่ที่พีคเด็ด อร่อยเกินคาด คือ ผัดหมี่ ค่ะ!!! เอ้ย มันอร่อย จริง ๆ ใครไปร้านนี้ก็อย่าลืมสั่งผัดหมี่นะ

ที่พนักงานแนะนำ ก็มีปูผัด ข้าวต้ม ผัดหมี่ และ กับข้าวอื่น ๆ และทานกับเบียร์ค่ะ

 

โดนพ่อท้าให้ไปเสียเงินที่ Casino ฝั่ง มาเก๊า

 

กินข้าวเสร็จ พ่อเราอยากให้มีประสบการณ์เสียเงินบ้าง ให้เหตุผลว่า การไปเที่ยวเนี่ย ถ้าเรามัวแต่คิดถึงเรื่องเสียดาย ขาดทุน เสียดายเงิน เที่ยวแบบประหยัด ชีวิตจะไม่มีความสุขเลย พ่อเคยจนมาก และตั้งใจทำงานมาก พอเริ่มมีเงิน พ่อก็ไม่มีความสุข ตอนไม่มีเงินก็เครียด ตอนมีเงินก็เครียด แล้วชีวิตเกิดมาทำไม สอนเรากับสามีเสร็จ ก็ท้าให้สามีไปเสียเงินที่คาซิโนค่ะ

สามีก็ลองจ้าาาาา รีบเดินไปขึ้น MTR ไปต่อท่าเรือเฟอร์รี่ ซื้อตั๋วไปมาเก๊า แบบไม่ได้วางแผน
และไม่เอาถุงช้อปปิ้งกลับโรงแรมด้วย เพราะพวกเราเชื่อว่า ถ้ากลับโรงแรมปุ๊บ คงไม่ได้ออกมาอีกแล้วแน่ 5555+
จากท่าเรือเฟอร์รี่ ซื้อตั๋ว ก็จะมีตั๋วผี แบบว่ามีคนเอามาขายต่อ โดยบอกเราว่าตั๋วหมดแล้วนะ ให้ซื้อจากเขาเท่านั้น แฟนเราก็ไม่เชื่อ เดินไปดู ปรากฏว่ายังมีตั๋วขายอยู่ เราก็ซื้อ แล้วนั่งเรือไม่นาน ไปถึงฝั่งนู้น ผ่านพิธีต่าง ๆ แล้วก็เดินไปที่ท่ารถ Shuttle Bus ปรากฏว่า รถหยุดเดินหมดแล้วจ้าาาาาาาาาาาก็เลยเดินมาหา Taxi ให้พาไปคาซิโนตามที่เสิชมาตอนอยู่ร้านกินปูแล้ว

ไปถึงปุ๊บ เราก็เล่นไม่เป็น ส่วนสามีเราก็ลองเล่น ฮีติดใจมาก เราอยู่ในคาสิโนนั้นนานมากกกก แทบไม่ได้อะไร ได้กำไรกลับมาไม่กี่เหรียญ 55555 ก่อนจะโบกแท็กซี่กลับท่าเรือ ข้ามมาฝั่งฮ่องกง ณ เวลานั้น คือ ไม่ไหวแล้ว ออกจากท่าเรือฝั่งฮ่องกงปุ๊บ โบกแท็กซี่กลับค่ะ

*ระวัง* แท็กซี่ที่ฮ่องกง คิดตามมิเตอร์ค่ะ ระวังพวกแท็กซี่จอมฉวยโอกาส ที่จะคอยบอกคุณว่า ข้างนอกไม่มีรถแล้ว ให้ขึ้นกับพวกเขา ราคาเหมาจ่าย พวกนั้นจะคิดราคาแพงเกินจริงค่ะ แต่ถ้าคุณเดินออกมาตรงจุดที่ขึ้นแท็กซี่จริง ๆ ก็จะได้เจอแท็กซี่มิเตอร์เข้าคิวกันอยู่ค่ะ จากฝั่งฮ่องกง ไปเกาลูน โรงแรม Mira ราคาแท็กซี่ก็ไม่ได้แพงถึงขั้นรับไม่ได้ค่ะ เมื่อถึงโรงแรม พวกเรามีเวลานอนกันแค่ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง เพราะว่า ต้องไปต่อที่ร้านติ่มซำ Sun Hing และห่าน Yat Lok ก่อนจะกลับสนามบิน กลับประเทศไทยบ้านเรา

วันที่สาม กินห่าน หมูแดง ร้าน Yat Lok – ซื้อ Sun Hing ใส่กล่อง – IFC Mall – สนามบิน – ติ่มซำ Crystal Jade สนามบิน – กลับกรุงเทพฯ

 

ร้านบะหมี่ขาห่าน Yat Lok & หมูแดง ด้วย

เนื่องจากนอนน้อย ตื่นมาตาบวม ท้องก็บวมค่ะ อืดมากจริง ๆ แต่เราต้องทำทริปนี้ให้สำเร็จ
การออกเดินทาง จริง ๆ แล้ว ที่ฮ่องกงจะมีโหลดกระเป๋าเช็กอินไปล่วงหน้า แต่ว่าเรากับแฟนทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะว่าเราตั้งใจจะซื้อห่าน และของจุกจิกอีกมากมาย เอาใส่กระเป๋าโหลดไปค่ะ เราเลยยอมแบกกระเป๋า นั่งจากฝั่งเกาลูนไปฮ่องกง ไปเยือนร้าน Yat Lok

ซึ่งกระเป๋าหนัก ๆ พวกนี้ นึกสภาพเดินตามทางลาดชัน บันไดซี่เล็ก ๆ หลายขั้น หมดแรงค่ะ เหงื่อซกเลย
แนะนำว่า อย่าทำตามเราเลยข้อนี้ ให้หาเวลาวันว่าง ๆ ไม่ต้องแบกของเยอะไปดีกว่า ถ้าอยากทานห่านที่ร้าน Yat Lok & Yung Kee เพราะฝั่งฮ่องกง ทางเดินบางจุดมันลาดชัน

ไปถึง Yat Lok มีชาวต่างชาติหิ้วกระเป๋ากันมากินห่านเยอะเหมือนกันค่ะ
เราสั่งบะหมี่ขาห่าน ส่วนสามีสั่ง ข้าวขาห่านย่าง + หมูแดง หมูแเดงหน้าตาน่าทานมากกกก แต่ถ้าถามเรา ใจเรายังอยู่ที่ร้าน Po Kee รู้สึกว่าหมูแดงร้าน Po Kee จะนุ่ม ชุ่มฉ่ำกว่า แต่ถ้าใครชอบแบบเนื้อแน่น ๆ หอม ๆ ก็ลอง Yat Lok ค่ะ

 

แล้วก็ไม่ลืมที่จะซื้อห่านไปฝากคนที่บ้าน

กินที่ร้านอร่อยกว่านะจ้ะ

ร้านติ่มซำ Sun Hing มิชลินแนะนำ

ถ่ายรูปกินเสร็จเป็นพิธี นั่งคุยนานไม่ได้ เพราะมีอีกร้านที่ต้องไป คือ ร้าน Sun Hing นั่นเอง
ต่อมความอยากมันกำเริบตั้งแต่เห็นรูปรีวิวของพี่แป๋ว Pantip ต้องไปให้ได้ ก็หอบกระเป๋ากันไปสองคนสามีภรรยา
พอไปถึงสถานีปลายทางปุ๊บ สามีเราจะลำบากถ้าเกิดเอากระเป๋าออกจากสถานี เลยตัดสินใจกันว่า ให้เราไปคนเดียว ไปซื้อใส่กล่องมา
สามีมอบเกียรตินั้นให้เรา เพราะเห็นเราอยากไปมากร้านนี้ 555+

 

ไปถึงปุ๊บ สั่งซาลาเปาไส้ไหล ลาวาจ้าาาาาาา & สั่งเมนูที่มิชลินแนะนำ ก็คือ เป็นติ่มซำ มีเป็นฟองเต้าหู้สอดไส้ปีกไก่ (บางชิ้นเรากัดโดนข้อขาไก่) เห็ดหอม กระเพาะหมู กระเพาะปลา และอีกเมนูจำชื่อไม่ได้แต่มีไข่นกกระทา ฟินมากกกกกกกกกกกกกก รอบหน้าต้องไปอีกแน่นอนร้านนี้

นอกจากนี้ เราก็อ่านรีวิวจากชาวต่างชาติมาว่า พวกเขาซื้อใส่กล่องแล้วไปกินที่อื่น ปรากฏว่าผ่านเป็นชั่วโมง แป้งยังนุ่ม ยังร้อน ไส้ยังเป็นลาวาอยู่เลย ของเขาดีมาก ก็เข้าทางเรากับแฟนเลย เพราะว่าท้องก็ตึงมาก และต้องไปตึก IFC MALL อีก จึงไม่รอช้า เก็บไว้กินแล้วกันจ้ะ

 

ฟองเต้าหู้ยัดไส้อร่อยมากกกก

เดินไปสักพัก แฟนเรารอไม่ไหว ขอแอบเปิดมาชิม …. เหยยยย….. มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกก
ไส้ลาวากลมกล่อมมาก หวานอ่อน ๆ และเค็ม นิด ๆ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกก
ส่วนติ่มซำไข่นกกระทากับฟองเต้าหู้ยัดไส้ ก็ไม่ต้องพูดค่ะ 10/10 สมกับที่มิชลินแนะนำ

 

Crystal Jade

ก่อนกลับไทย ไม่ลืมแวะทาน Crystal Jade ที่สนามบินค่ะ เสี่ยวหลงเปา

อร่อยแต่กินไม่ไหวแล้วค่ะ ชิ้นเดียวพอ ที่เหลือยกให้คุณสามีนะคะ

เครื่องดื่มแก้เลี่ยนค่ะ

พิกัดร้านทั้งหมดที่เราไป

ร้าน Po Kee

ที่อยู่: 425 Queen’s Road West, Western District, Hong Kong
เวลาทำการ 11:30 – 22:30 ร้านปิดวันอาทิตย์
MTR – ลงสถานี HKU ใช้ทางออก exit 1 ออกมาจะเจอถนน Queen’s อยู่ตรงหน้า ให้เดินข้ามฝั่งไปแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไม่ถึง 1 นาที ร้านจะอยู่ขวามือ ฝั่งตรงข้ามของร้านจะมีตึกตลาดสดใหญ่ ๆ (คลิก รีวิวพี่แป๋ว Pantip)

 

ร้าน Sun Hing

ที่อยู่ Shop C, G/F, 8 Smithfield Road, Kennedy Town, Western District
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน ตี 3 – 4 โมงเย็น
MTR – ออกสถานี Kennedy Town, exit A แล้วเดินตรงอย่างเดียวไปตามถนน Smithfield ร้านอยู่ขวามือ เดินไม่เกิน 2 นาที (คลิก รีวิวพี่แป๋ว Pantip)

 

ร้าน Yat Lok

ที่อยู่ Conwell House, G/F,, 34-38 Stanley St, Central, ฮ่องกง
วิธีไป ตาม GPS Google Map ไปเลยค่ะ

 

ร้าน Yung Kee Restaurant

32-40 Wellington Street, Central, Hong Kong
วิธีไป ตาม GPS Google Map ไปเลยค่ะ

 

ร้าน Lin Heung Tea House

เปิดทุกวัน 6.00 – 15.30 (ชา & ติ่มซำ) และ 18.00 – 23.00 น. (ไม่มีติ่มซำ)
MTR – สถานี Sheng Wan ทางออก A2 (Hillier Street) เลี้ยวซ้ายตรงถนน Bonham Strand แล้วเดินตรงไปต่อที่ถนน Wellington Street เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึง ร้านอยู่ด้านขวามือ
ที่อยู่ 號, 162 Wellington St, Sheung Wan, Hong Kong (คลิก)

ร้าน Under the Bridge Spicy Crab

 

(คลิกอ่านรีวิวฮ่องกงแฟนคลับ)
ร้านนี้มีหลายสาขา
สาขาหลักอยู่ที่
G/F-3/F, Ascot Mansion, 421-425 Lockhart Road, Wan Chai, HK
Tel: 852) 2893 1289 / 2834 6818
(ทางออก C, Causeway Bay Station)

ช้อปย่อย 1
Shop 1-2, G/F, Chinaweal Centre, 414-424 Jaffe Road, Wan Chai, HK
Te: (852) 2834 6268
(ทางออก C, Causeway Bay Station)

ช้อปย่อย 2
Shop 6-9, G/F, 429 Lockhart Road, Wan Chai, HK
Tel: (852) 2573 7698
(ทางออก C, Causeway Bay Station)
Google แมพเลยค่ะ 421 Lockhart Rd, Wan Chai, ฮองกง

 

ร้าน One Dim Sum

ฮ่องกง Prince Edward, Playing Field Rd, 15號號 號 地舖 1-2 號 Kenwood Mansion
สถานีรถไฟฟ้า MTR ใกล้เคียง – ฮ่องกง Prince Edward, Playing Field Rd, 15號號 號 地舖 1-2 號 Kenwood Mansion (คลิก)

 

ติดตามรีวิวทริปฮันนีมูนรอบหน้า ไปยุโรปตะวันออกกันนะจ้ะ ที่ WeddingReview.net

Report

What do you think?

0 Points
Upvote

มีงบ 300,000 บาท ก็จัดงานแต่งโรงแรม 5 ดาวได้ – โรงแรม Pullman Grande Sukhumvit

22 ไอเดีย ถ่ายรูปแต่งงาน ฉบับครอบครัว! ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวห้ามพลาด!